ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.93 ทรงตัวจากช่วงเช้า ตลาดจับตาทิศทางบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 22, 2022 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.93 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว ในระดับเดียวกับเปิดตลาดเมื่อเช้านี้

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.83 - 33.95 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าเช่นเดียวกับ สกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากปัจจัยดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นใน ช่วงนี้

"วันนี้ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ชุดใหญ่) ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ไม่ค่อยมีผลต่อ เงินบาทมาก เนื่องจากช่วงนี้ บาทวิ่งตามดอลลาร์สหรัฐฯ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 33.85 - 34.05 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงนี้ ยังต้องติดตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 128.45 เยน/ดอลลาร์ จากแมื่อเช้าที่ระดับ 128.61 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0799 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0840 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,690.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.04 จุด (+0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 71,019 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,277.74 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีมติยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go โดยปรับให้ใช้เพียงการตรวจ
ATK เท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเปิดรองรับการท่องเที่ยว ปรับเพิ่มพื้นที่สีเหลือง (เฝ้าระวัง
สูง) เป็น 65 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้า (นำร่องท่องเที่ยว) เป็น 12 จังหวัด และยังคงไม่อนุญาตให้เปิดบริการสำหรับสถานบันเทิง
ผับ บาร์ คาราโอเกะในทุกพื้นที่ ส่วนการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารนั้น ศบค.ขยายเวลาให้สามารถดื่มได้ถึงเที่ยง
คืน จากปัจจุบันที่ไม่เกิน 23.00 น.
  • ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เชื่อว่าการยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ
Test & Go ที่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ เหลือเพียงการตรวจด้วย ATK ซึ่งจะเริ่มมี
ผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ จะช่วยดึงบรรยากาศการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักได้ ภาคการค้าและบริการจะได้กลับมาฟื้นตัว
ได้เร็วขึ้น
  • กระทรวงคลัง เผยมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อ
ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4, โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2 และโครงการ
คนละครึ่ง ระยะที่ 4 พบว่า ล่าสุดมีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการ รวม 40.94 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายสะสมรวม 69,260 ล้านบาท
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.94% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
อายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.96% ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.
  • กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวม
ราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยได้
แรงหนุนจากต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น เนื่องจากสงครามในยูเครนและเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรุนแรงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดัน
ด้านเงินเฟ้อ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมี.
ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก Conference
Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/65 (ประมาณการ
เบื้องต้น)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ