ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ดิ่งหนักเทียบเยน,ยูโร หลัง FED ลดดบ.ฉุกเฉิน

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉินเมื่อวานนี้ และข่าวที่ว่าเจพีมอร์แกน ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5745 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.5673 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 2.0006 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 2.0185 ดอลลาร์/ปอนด์
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9180 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9375 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7982 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.8132 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
          เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังซ์สวิส ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 97.400 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 98.980 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9857 ฟรังซ์/ดอลลาร์ จากระดับ 0.9983 ฟรังซ์/ดอลลาร์
          ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากเฟดประกาศมาตรการกอบกู้วิกฤตสินเชื่อครั้งใหม่ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน(discount rate) ลงอีก 0.25% สู่ระดับ 3.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที
          นอกจากนี้ เฟดยังจัดเตรียมวงเงินกู้ประเภทอื่นๆให้กับวาณิชธนกิจรายใหญ่เพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ พร้อมกับอนุมัตการจัดสรรเม็ดเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับแบร์ สเติร์นส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐ
          เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ตกลงซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ ในราคาหุ้นละ 2 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นวงเงินรวม 236.2 ล้านดอลลาร์ หลังจากแบร์ สเติร์นส์ ประสบปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องอย่างหนัก จนต้องยื่นขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากเฟดสาขานิวยอร์ก จนเป็นเหตุให้เกิดความตื่นตระหนกในตลาดวอลล์สตรีท
          เจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในเวลานี้ย่ำแย่กว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินของเฟด และข่าวแบร์ สเติร์นส์ขายกิจการให้เจพีมอร์แกน ซึ่งข่าวเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินดอลลาร์ทั้งสิ้นและกดดันให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์อย่างหนัก"
          คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีกำหนดจะประชุมในวันอังคารที่ 18 มี.ค. ซึ่งมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed fund rate) ลงอีก