นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากที่สถานการณ์ด้านราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ก.พ.65 ที่ผ่านมาและยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลง ส่งผลกระทบต่อการจัดหาพลังงานของโลก รวมทั้งปัจจุบันความต้องการเชื้อเพลิงพลังงานทุกประเภทมีมากขึ้นหลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย
แม้ว่าที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ออกมาตรการต่างๆ แต่เนื่องจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้การช่วยเหลืออาจจะไม่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้ แต่กระทรวงพลังงานมิได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้มีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซินในกลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์สาธารณะ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
โดยเมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 กระทรวงพลังงานได้นำเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะต่อ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และได้มีมติเห็นชอบ "โครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ" โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานดำเนินโครงการ
และเมื่อวันที่ 19 เม.ย.65 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง) ที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียนเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก จำนวนสิทธิรวม 106,655 ราย จะได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมัน ไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน รวม 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค.65 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาระประชาชนจากการปรับขึ้นค่าโดยสาร
ด้านนางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรมฯ ได้ดำเนินโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือเรียกว่าโครงการ "วินเซฟ" โดยดำเนินการร่วมกับผู้ค้าน้ำมันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก กรมการปกครอง กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ กำหนดแนวทางดำเนินโครงการ และธนาคารกรุงไทย เป็นผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ถุงเงิน และ เป๋าตัง เพื่อรองรับการใช้สิทธิ "วินเซฟ"
โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างป้ายเหลือง) ที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียนเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก (ภายในวันที่ 22 มีนาคม 2565) ในรูปแบบรัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 ไม่เกิน 50 บาท/คน/วัน และไม่เกิน 250 บาท/คน/เดือน
สำหรับโครงการ "วินเซฟ" นี้ ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ สามารถกดยืนยันสิทธิ ที่แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" แบนเนอร์ "สิทธิวินเซฟ" และสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการสามารถกดยืนยันสิทธิที่แอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ได้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.65 เป็นต้นไป และเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.65 ณ สถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ
ส่วนการใช้งานจะมีความคล้ายกับโครงการคนละครึ่ง ที่จะต้องเติมเงินเข้าไปในบัญชีก่อน ถึงจะสามารถใช้งานได้ โดยขณะนี้มีสถานีบริการน้ำมันสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,000 แห่ง และสถานีบริการสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง