นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.06 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัว แข็งค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.10 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.01 - 34.16 บาท/ ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่า
"ช่วงเช้า บาททยอยแข็งค่าลงมาเกือบแตะระดับ 34.00 บาท/ดอลลาร์ แต่มีแรงซื้อเข้ามา ทำให้บาทไม่แข็งค่าหลุด 34 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
ส่วนคืนนี้นักลงทุนรอดูผลประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และการ ประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.00 - 34.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 129.70 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 129.24 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0597 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0607 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,643.30 จุด ลดลง 8.99 จุด, -0.54% มูลค่าการซื้อขาย 77,457.05 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 120.90 ล้านบาท (SET+MAI)
- กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน เม.ย.65 อยู่ที่ระดับ 105.15 เพิ่มขึ้นจากเดือน
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ระบุการที่สหรัฐฯ เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงในรอบกว่า 40 ปี ใน
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เตรียมทำหนังสือถึง รมว.คลัง เพื่อแสดงความคิดเห็นคัดค้านแนวคิดที่จะมีการจัดเก็บภาษี
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือน เม.ย.65 พบว่า ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ
- ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 1.25% ในวันนี้ หลังจาก
- ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ (GCC) พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังจากเฟดประกาศขึ้นอัตรา
- นักวิเคราะห์ คาดกรณีสหภาพยุโรป (EU) ตัดสินใจระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ตามข้อเสนอของประธานคณะ
- รมต.เศรษฐกิจ, การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น แสดงท่าทีคัดค้านที่จะดำเนินแผนการเช่นเดียวกับสหภาพยุโรป
- นักวิเคราะห์ของธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ (BNP Paribas) คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตรา
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐ ได้เพิ่มบริษัทจีนอีกกว่า 80 แห่ง
รวมถึงเจดีดอทคอม (JD.com), พินตัวตัว (Pinduoduo) และปีลีปีลี (Bilibili) ลงในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกถอดออกจากตลาด
หุ้นสหรัฐ