นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.61 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 34.42 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัว เพิ่มขึ้น และมีแรงซื้อดอลลาร์ในตลาดโลก เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากหลายปัญหา เช่น สถานการณ์สู้ รบในยูเครน ภาวะเศรษฐกิจของจีน โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40 - 34.63 บาท/ดอลลาร์
"บาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ระหว่างวันทำนิวไฮในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่เดือน พ.ค.60 แตะที่ระดับ 34.63 บาท/ดอลลาร์ และยังมี ทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.50 - 34.70 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ ตลาดรอดูคือการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนวันพุธนี้
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 131.20 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี จากเมื่อเช้าที่ระดับ 130.85 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0526 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0528 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,604.49 จุด ลดลง 25.09 จุด, -1.54% มูลค่าการซื้อขาย 81,607.55 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 415.97 ล้านบาท (SET+MAI)
- รมว.พลังงาน ได้สั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงพลังงานทำงานร่วมมือกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกระทรวงพลังงาน เช่น การ
- รมว.พาณิชย์ ตั้งเป้าหมายการส่งออกผลไม้ไทยทั้งผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้แห้ง และผลไม้แปรรูปในปี 65 เป็นมูลค่า
- สธ.เฝ้าระวังโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยใหม่หลังตรวจพบในชาวต่างชาติ 3 ราย ขณะที่การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ
- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วนยอดนำเข้าทรงตัวในเดือนเม.ย. หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนมี.ค. และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัว ลง 3%
- ปัจจัยหลักที่ตลาดจะให้ความสำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ การรายงานภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐ หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย