นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ที่มอบหมายให้กรมฯ สำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศต่าง ๆ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสุภาพร สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนาม ถึงโอกาสการลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ในเวียดนามของนักลงทุนไทย เพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการคลังสินค้าและการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ ได้เดินหน้าขยายการลงทุนในเวียดนาม รองรับการค้าและการขนส่งที่เพิ่มขึ้น เช่น บริษัท SEKO Logistics ของสหรัฐฯ ได้เปิดสาขาในเวียดนาม มีพื้นที่คลังสินค้ามากกว่า 300,000 ตารางเมตร รถแทรกเตอร์ตู้คอนเทนเนอร์ 350 คัน และรถบรรทุก 150 คัน, บริษัท DHL Express ได้ลงทุนโครงการคลังสินค้าใหม่ใกล้กับสนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย มีพื้นที่ใช้สอยรวม 4,500 ตารางเมตร มากกว่าเดิม 2 เท่า และเครือ Imex Pan Pacific Group ซึ่งเป็นเครือนำแบรนด์ระดับโลก เช่น Burger King และ Calvin Klein มีความต้องการพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ในเมืองทู๋ดึ๊ก พร้อมกับการเปิดตัวสายการบิน IPP Air Cargo ส่วนบริษัท MSC Vietnam ต้องการสร้างท่าเรือแบบถ่ายลำในอำเภอเกิ่นเส่อ ที่เป็นอำเภอชายฝั่งทะเลของนครโฮจิมินห์
นายภูสิต กล่าวว่า จากการศึกษา พบว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยการเติบโต 14-16% ต่อปี และมีมูลค่า 4-4.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ แม้จะมีข้อบังคับทางกฎหมาย ในขณะที่บริษัทโลจิสติกส์ภายในประเทศส่วนใหญ่มีขนาดเล็กด้วยคลังสินค้าแบบดั้งเดิม ขาดโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และเงินทุน
นอกจากนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปใช้อีคอมเมิร์ซโลจิสติกส์ ทำให้จำนวนธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการบริการคลังสินค้าและบริการจัดส่งเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เวียดนามกำลังบูรณาการกับเศรษฐกิจโลกโดยใช้ประโยชน์จากความตกลงทางการค้า เพื่อส่งเสริมการเติบโตของการนำเข้าและการส่งออกที่สูง พร้อมกับการฟื้นตัวของกระแส FDI จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ของไทยในการขยายตลาดและร่วมมือระหว่างประเทศ
"เวียดนามถือเป็นหนึ่งในตลาดโลจิสติกส์ที่น่าดึงดูดที่สุดสำหรับบริษัทรายใหญ่ ด้วยเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต และการบริโภคภายในประเทศของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน ทำให้เวียดนามกลายเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของโลก ไม่เพียงแต่สำหรับการขนส่งภายในประเทศเท่านั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ และนักลงทุนไทยในการเจาะตลาดธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านโลจิสติกส์ที่มีแนวโน้มการเติบโตมากในเวียดนาม" นายภูสิตกล่าว