นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.74 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 34.71 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.67 - 34.76 บาท/ดอลลาร์
โดยวันนี้เงินบาทอ่อนค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนเม. ย.65 ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดปิดรับความเสี่ยง และเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินเยน
"เงินบาทวันนี้ เคลื่อนไหวไปถึงระดับ 34.76 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังคงอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี" นักบริหารเงินกล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.60 - 34.80 บาท/ดอลลาร์ คืนนี้ ต้องติดตาม การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 128.83 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 129.76 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0432 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0523 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,584.52 จุด ลดลง 28.82 จุด (-1.79%) มูลค่าการซื้อขาย 92,530 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 643.41 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ยังเป็นการเคลื่อนไหวตามทิศทางค่าเงินใน
ภูมิภาค และยังเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าในปัจจุบันปัจจัยภายนอกมีความผันผวนค่อนข้างมาก ทั้งนี้
ธปท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีความจำเป็น ก็จะเข้าไปดูแลตามความเหมาะสม
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายหลักเกณฑ์เกี่ยวกับธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ((FX
regulatory framework) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 65 ใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1. โอนเงินตราต่างประเทศ (FX) ออกไป
ยังต่างประเทศได้เสรีขึ้น และชำระ FX ในประเทศได้ตามความจำเป็น 2. ขยายขอบเขตการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนให้กว้าง
ขึ้น โดยผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องมีความเสี่ยงจากการมีรายรับ-รายจ่ายสกุล FX กับต่างประเทศโดยตรงเท่านั้น 3. ไม่ต้องแสดง
เอกสารการทำธุรกรรม FX หากธนาคารเข้าใจลักษณะธุรกิจและความเสี่ยง FX ของลูกค้าอยู่แล้ว
- ธปท.อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและต้องบูรณาการความร่วมมือช่วยกันแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนของคนไทย
โดยมีมาตรการเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้า คนรายได้น้อยถึงปานกลาง เช่น วิธีการเสริมรายได้ให้คน
ไทย เป็นต้น เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่รายได้ไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 และระหว่างนี้ต้องทำมาตรการปัจจุบันให้เกิด
ประสิทธิผล และเกิดรูปธรรม เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ และการรวมหนี้ เป็นต้น
- กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณาออกมาตรการ "คนละครึ่ง" เฟส 5 ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ โดยยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด โดยเฉพาะการจัดการงบประมาณเพื่ออุดหนุนโครงการ ซึ่ง
กระทรวงการคลังจะขอประเมินการจัดเก็บรายได้ และผลกระทบต่อฐานะการคลังให้ชัดเจนอีกครั้ง
- รมว.สาธารณสุข คาดว่าช่วงปลายเดือนพ.ค.-มิ.ย. นี้ สถานการณ์โควิด-19 จะเข้าสู่ระยะโรคลดลง (Declining)
และจะมีการผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงจะประกาศลดระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 2
- องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ในหลายประเทศ
อย่างไรก็ดี อัตราการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำ
- บรรดานักลงทุนแห่เทขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซียอดนิยมในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก หลังจากราคาสเต
เบิลคอยน์ TerraUSD หรือ UST ทรุดหนัก เนื่องจากหลุดมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ ลงมาอยู่ในกรอบ 20-90 เซนต์
ขณะที่เหรียญลูนา (Luna) ที่ผูกติดกับ TerraUSD ราคาทรุดตัวลงราว 95%
- หน่วยงานกำกับดูแลของออสเตรเลียได้อนุญาตให้เปิดทำการซื้อขายกองทุน ETF บิตคอยน์แล้วในวันนี้ โดยบริษัท
คริปโทเคอร์เรนซีหลายแห่งต่างพากันเปิดตัวกองทุน ETF บิตคอยน์บนแพลตฟอร์มของ Cboe Global Markets Inc ซึ่งรวมถึงกองทุน
ETFS 21Shares Bitcoin ETF, ETFS 21Shares Ethereum ETF และ Cosmos Purpose Bitcoin Access ETF แม้อุตสาห
กรรมคริปโทเคอร์เรนซีกำลังเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักในขณะนี้
- สภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน (CPPCC) วางแผนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับบรรดาบริษัทภาคเอกชนในสัปดาห์
หน้า ซึ่งรวมถึง บริษัทไป่ตู้ อิงค์ ขณะที่นักลงทุนรอดูว่า จีนจะส่งสัญญาณลดการปราบปรามอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหรือไม่
- นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะยังคงชะลอตัวในไตรมาส 2/2565 โดยมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะหดตัว
มากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ฉุดรั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และลดกำลังซื้อของผู้บริโภค