ผลสำรวจ PwC ชี้ ตัวเลขการควบรวมและซื้อกิจการเหมืองทั่วโลกปี 50 โต 69%

          ผลการสำรวจ Mining Deals จากไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส (PwC) เปิดเผยว่า ตัวเลขการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทั่วโลก พุ่งขึ้น 69% แตะที่ 1,732 ในปี 2550 คิดเป็นมูลค่า 1.589 แสนล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบเป็นรายปี
          "ไม่มีบริษัทใดสามารถรอดพ้นจากการควบรวมและซื้อกิจการได้ บรรดาบริษัทขนาดใหญ่กำลังมองหาการควบรวมกิจการเพื่อขยายฐานการดำเนินงานของบริษัทให้มีขนาดใหญ่ทั่วโลก" ทิม โกลด์สมิธ ประธาน PwC กล่าว
          รายงานระบุว่า ในปีนี้จะยังคงเป็นยุคของการควบรวมกิจการครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น บีเอชพี บิลลิตัน ได้เสนอซื้อกิจการของริโอ ทินโต ด้วยมูลค่ากว่า 1.50 แสนล้านดอลลาร์ นับเป็นข้อตกลงซื้อกิจการเหมืองแร่ครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ริโอ ทินโต เคยเข้าซื้อกิจการของอัลแคนด้วยมูลค่าสูงสุดที่ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้
          นอกจากนี้ มีกระแสข่าวว่า วาเล (Vale) บริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ของบราซิล เตรียมเสนอเข้าซื้อกิจการของเอ็กซ์ตราต้า พีแอลซี บริษัทเหมืองสัญชาติออสเตรเลีย ด้วยวงเงิน 9 หมื่นล้านดอลลาร์
          อย่างไรก็ตาม พบว่าการทำสัญญาควบรวมและซื้อกิจการเหมืองแร่ชะลอตัวลงเล็กน้อย อันเป็นผลมาจากปัญหาสินเชื่อ ขณะที่ตัวเลขการทำสัญญาควบรวมและซื้อกิจการในธุรกิจเหมืองแร่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในปีก่อนหน้านี้
          ทั้งนี้ บรรดาบริษัทของจีนและรัสเซียได้ทำสัญญาในธุรกิจเหมืองแร่เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.27 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 5.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2548 หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของมูลค่าการทำสัญญาเหมืองแร่โดยรวมทั่วโลก สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน