นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่าไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆจะต้องยื่นมือเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อกระตุ้นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ในตลาดเงินจะเผชิญความตึงเครียดอยู่ก็ตาม
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานโดยอ้างคำกล่าวของผอ.ไอเอ็มเอฟที่มีขึ้นในงานการประชุมร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาว่า ดูเหมือนว่าทางธนาคารกลางยังไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าแทรกแซงตลาดเงินในขณะนี้ และยอมรับว่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมากและมีมูลค่าสูงเกินจริง แต่เรายังจำเป็นต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวในตลาดไปอีก 2-3 วันเพื่อดูว่าระดับของเงินยูโรที่มีเสถียรภาพนั้นอยู่ตรงจุดไหน
"สกุลเงินแต่ละแห่งมีส่วนต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยมีเงินสกุลเงินหยวนของจีนที่อ่อนค่า ขณะที่เงินสกุลยูโรนั้นมีความแข็งแกร่ง ส่วนสกุลเงินที่อยู่ในจุดกึ่งกลางของทั้งสองสกุลเงินคือเงินดอลลาร์สหรัฐ"
ผอ.ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า สหรัฐจำเป็นที่จะใช้ประโยชน์จากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์เพื่อปรับตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด แต่มูลค่าของเงินที่อยู่ในระดับต่ำไม่ได้หมายความว่าจะไม่สร้างปัญหาให้กับระบบเศรษฐกิจ
เขากล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบเพียงแค่สหรัฐเท่านั้น แต่จะลุกลามไปยังยุโรปและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วย พร้อมทั้งชี้ว่า วิกฤตการเงินได้กลายเป็นประเด็นที่รุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อทั่วโลกซึ่งต้องได้รับการแก้ไขในระดับโลกด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายสเตราส์-คาห์น กล่าวว่า การปรับลดดอกเบี้ยมาตรฐานของเฟดเมื่อวานนี้ รวมถึงการจัดตั้งวงเงินปล่อยกู้พิเศษล็อตใหม่ และการที่เจพีมอร์แกน เชสเข้าซื้อกิจการของแบร์ สเติร์นส์นับเป็นวิธีที่ถูกต้องในการสร้างเสถียรภาพในตลาดได้อีกทางหนึ่ง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--