นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทางการจะปล่อยให้ราคาข้าวปรับตัวขึ้นไปตามกลไกตลาด โดยจะไม่เข้าไปแทรกแซงราคาด้วยกับการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปีการผลิต 51 ที่คาดว่าจะมีผลผลิตออกมาประมาณ 6 ล้านตันข้าวเปลือก เนื่องจากราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ส่วนปัญหาที่เกรงว่าผู้บริโภคต้องซื้อข้าวแพงขึ้นนั้น ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในช่วยดูแลผลกระทบดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้น ในขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำข้อมูลผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการข้าวต่อไป
"ที่ประชุมมองทางเดียวกันคือ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพราะขณะนี้ราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ดีมาก จึงไม่ควรรับจำนำ" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรทั้งระบบร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงคมนาคม
ด้านนายปราโมทย์ วานิชชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย เห็นด้วยที่รัฐบาลไม่เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังที่กำลังออกสู่ตลาดในเดือน พ.ค.นี้ เพราะราคาตลาดสูงอยู่แล้ว ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศ รัฐสามารถนำข้าวในสต๊อกที่มีอยู่มากถึง 2.1 ล้านตันออกมาจำหน่ายเป็นข้าวบรรจุถุงในราคาต่ำให้กับผู้มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนได้ โดยคาดว่าราคาข้าวจะสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ราคาข้าวภายในประเทศขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาตลอด ล่าสุดวันนี้ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 12,500-12,700 บาท, ข้าวเปลือกนาปรัง(ความชื้นไม่เกิน 15% ปี 51) จ.นครสวรรค์ ตันละ 9,900-10,500 บาท, ส่วนข้าวสาร (100 กก.)ชนิดข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2(เก่า) 2,360-2,370 บาท, ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2(ใหม่) 2,360-2,370 บาท, ข้าวขาว 100% ชั้น 2(ใหม่) 1,700-1,705 บาท, ข้าวขาว 5%(ใหม่) 1,650-1,655 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--