FED ประกาศลดดอกเบี้ยอีก 0.75% ส่งสัญญาณอาจลดอีกหากศก.เสี่ยงเผชิญขาลง

          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ลงอีก 0.75% สู่ระดับ 2.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2547 โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และคลี่คลายความผันผวนในตลาดการเงิน นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ลงอีก 0.75% สู่ระดับ 2.5%
          อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ซึ่งกู้ยืมโดยตรงจากเฟด ส่วนอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากการกู้ยืมระหว่างกัน
          ทั้งนี้ เฟดกล่าวในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "เฟดเชื่อว่าการดำเนินการครั้งล่าสุด ซึ่งรวมถึงมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้นั้น จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวในระดับปานกลางและช่วยบรรเทาความเสี่ยงที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้"
          "อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญช่วงขาลงนั้น ยังคงมีอยู่ ซึ่งหากจำเป็นเฟดก็จะดำเนินการยับยั้งความเสี่ยงนั้นในเวลาที่เหมาะสมและทันท่วงที เพื่อผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพด้านราคา"
           "ข้อมูลเศรษฐกิจที่รวบรวมได้เมื่อเร็วๆนี้ บ่งชี้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอ่อนแอ โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดแรงงานซบเซาลงเช่นกัน ส่วนตลาดการเงินยังถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวล และตลาดสินเชื่อยังอยู่ในภาวะตึงตัว นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในภาวะตกต่ำ ซึ่งคาดว่าจะยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า" เฟดกล่าวในแถลงการณ์
          อย่างไรก็ตาม เฟดเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อ โดยระบุว่า "ที่ผ่านมานั้นตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นและคาดว่าจะปรับตัวขึ้นปานกลางในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ เฟดจะติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อย่างใกล้ชิด" สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน