นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.60 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.51 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.51 - 34.69 บาท/ดอลลาร์
"บาทปรับตัวอ่อนค่าจากเมื่อเช้า เคลื่อนไหวเกาะกลุ่มไปตามทิศทางตลาดโลก ส่วนหนึ่งอาจมาจาก Flow การนำเข้า ทองคำ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.50 - 34.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 129.14 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 129.40 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0516 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0558 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,620.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.84 จุด, +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 73,889.75 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,398.51 ล้านบาท (SET+MAI)
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.65 อยู่ที่ระดับ 86.2 ปรับตัวลดลง
จากระดับ 89.2 ในเดือน มี.ค.65 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่
ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งจากราคาวัดถุดิบ ราคาพลังงาน รวมถึงค่าขนส่ง ขณะที่กำลังซื้อในประเทศชะลอตัวจากปัญหาเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือน
ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายและอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง นอกจากนี้วันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทำให้การผลิตลดลง
- คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้คงราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 32 บาท/ลิตรเช่นเดิม ถึงแม้
ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูงอยู่ที่ 141.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังอยู่ในวิสัยที่
จะบริหารจัดการสภาพคล่องได้ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบในช่วงเวลานี้ให้กับประชาชนไปก่อน
- วิจัยกรุงศรี เผยยังคงประมาณการ GDP ปีนี้จะขยายตัวที่ 2.8% แม้ล่าสุดสภาพัฒน์ฯ ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้เหลือ
เติบโต 2.5-3.5% จากเดิมคาด 3.5-4.5% โดยช่วงไตรมาสแรกของไทยปี 2565 ขยายตัว 2.2% (YoY) และเติบโตต่อเนื่องจาก
1.8% ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จะเริ่มเห็นถึงผลกระทบของ
สงครามในยูเครนในระยะต่อไป ผ่านผลกระทบของการค้าและเงินเฟ้อ โดยส่งออกไทยจะเริ่มเห็นผลกระทบจากการชะลอตัวของอุปสงค์
โดยเฉพาะจากจีน รวมถึงปัญหาชะงักงันของอุปทานโลกจากภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ที่ผ่านมาผลกระทบต่อมูลค่าส่งออก
ไทยจะยังจำกัดในไตรมาสแรก แต่ EIC คาดว่าการส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบมากขึ้นในไตรมาส 2 ขณะที่ผลกระทบด้านเงินเฟ้อ
จากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น จะสร้างแรงกดดันต่อการบริโภคและการลงทุนในประเทศในระยะถัดไป
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมเสวนา "ถามมา - ตอบไป
เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 20 พ.ค. 65 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของ
ประเทศไทยที่ดีขึ้นกว่าเดิม" โดยจะแสดงวิสัยทัศน์ ข้อเสนอแนะ และทิศทางการปรับตัวรับมือ เพื่อวางรากฐานรองรับการเปลี่ยนแปลงด้าน
ต่าง ๆ ในอนาคตให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนใน
ระยะต่อไป
- ธนาคารหลายแห่งในเวียดนามประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.1% - 0.6% ท่ามกลางอุปสงค์เงินทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
และแรงกดดันเงินเฟ้อ
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็น เพื่อควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้พุ่ง
ขึ้นรุนแรงจนสร้างความเสียหายต่อรากฐานของเศรษฐกิจ
- นักลงทุนเทขายเหรียญเทเธอร์กว่า 7 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ราคาร่วงหลุดจากระดับที่ผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้
เกิดความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับทุนสำรองที่ใช้หนุนเหรียญเทเธอร์ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก