PTT คาดปีนี้นำเข้า LNG เกือบ 10 ล้านตัน ตามดีมานด์การใช้ก๊าซฯ ผลิตไฟฟ้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 19, 2022 15:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ปริมาณนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่เกือบ 10 ล้านตัน แบ่งเป็นสัญญาระยะยาวของ ปตท. 5.2 ล้านตัน และนำเข้า Spot LNG อีกเกือบ 5 ล้านตัน ที่นำเข้าโดย Shipper โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้ให้ ปตท.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) นำเข้า LNG ซึ่งตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการนำเข้า LNG แล้วประมาณ 6 ลำ แบ่งเป็น ปตท. 3-4 ลำ และ กฟผ. 2-3 ลำ นอกจากนี้ กฟผ. มีแผนนำเข้าในช่วงเดือนพ.ค.นี้ อีก 1-2 ลำ

อย่างไรก็ตาม ปตท.ประเมินความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในปีนี้คาดจะเติบโตขึ้นจากปีก่อน หลังช่วงไตรมาส 1/65 พบว่า ความต้องการใช้ก๊าซฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 4,420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 โดยความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นมาจากภาคการผลิตไฟฟ้าที่มีความต้องการใช้ก๊าซฯ ป้อนเป็นเชื้อเพลิง 2,650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ก็เริ่มกลับมาเดินเครื่องการผลิตมากขึ้นตามทิศทางการเปิดประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้น คาดว่าไตรมาส 2/65 ความต้องการใช้ก๊าซฯ ยังจะเติบโตต่อเนื่อง

สำหรับกรณีที่กระทรวงพลังงานให้พิจารณาการนำเข้า LNG ในช่วงราคาถูก เก็บไว้แล้วทำประกันความเสี่ยงด้านราคา (Hedging) นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนออกมาในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันก่อนเข้าสู่ฤดูหนาวในต่างประเทศในช่วงเดือน ต.ค.นี้

ปัจจุบันราคา LNG ตลาดโลกปรับลดลง อยู่ที่ประมาณ 20-21 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู จากช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สูงถึง 84-85 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ซึ่งหากเทียบกับการใช้น้ำมันเพื่อเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า ราคา LNG ในระดับช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้มากกว่า ดังนั้นคาดว่าความต้องการใช้ LNG เพื่อป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจะยังเพิ่มขึ้น

ขณะที่สัดส่วนสัญญาก๊าซฯ ที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ส่วนตัวมองว่าควรเป็นการจัดหาภายใต้สัญญาระยะยาวประมาณ 70% และสัญญาระยะสั้น 30% จากก่อนหน้านี้ ในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้สัดส่วนการใช้ก๊าซฯ ทั้งสัญญาระยะยาวและระยะสั้นใกล้เคียงกัน อยู่ที่ 50:50

สำหรับเตรียมความพร้อมรองรับการนำเข้า LNG เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยในส่วนของโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 จังหวัดระยอง คาดว่าเฟสแรก 2.5 ล้านตัน จะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในช่วงปลายเดือน มิ.ย.หรือต้นเดือน ก.ค.นี้ ซึ่ง และสิ้นปีจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ รองรับนำเข้า LNG ได้ถึง 7.5 ล้านตัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ