นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นกรณีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/65 ที่ขยายตัว 2.2% ว่า ถือว่าตัวเลขออกมาดีกว่าที่หลายสำนักคาดการณ์ไว้พอสมควร (คาดการณ์เฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ 1.7%) แต่ไม่ได้เป็นข่าวมากนัก เนื่องจากความสนใจไปอยู่ที่การปรับลดช่วงคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ลงเหลือ 2.5-3.5% จากเดิมที่สภาพัฒน์เคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.5-4.5%
นายดอน ตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติแล้วเมื่อตัวเลขไตรมาสดีกว่าคาด สภาพัฒน์มักจะปรับช่วงคาดการณ์ตัวเลขทั้งปีขึ้น หรืออย่างมากก็ให้ไว้เท่าเดิม แต่รอบนี้เป็นการปรับในทิศทางที่ตรงกันข้าม และยิ่งไปกว่านั้น ค่ากลางที่ 3.0% ยังต่ำกว่าประมาณการล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ 3.2% ซึ่งปกติแทบจะไม่เคยเห็นแบบนี้ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น ซึ่งเมื่อลงไปดูในรายละเอียด พบว่าเป็นการปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวในทุกองค์ประกอบหลัก โดยสภาพัฒน์ให้เหตุผลว่าเป็นผลจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลลบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และค่าครองชีพในประเทศ
"ไม่อยากให้มองเศรษฐกิจไทยในเชิงลบมากเกินไป ที่สำคัญ เศรษฐกิจไทยตามคาดการณ์ของสภาพัฒน์ยังเป็นขาขึ้นอยู่ โดยต่อให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โชคร้าย ขยายตัวได้เท่ากับแค่ขอบล่างของช่วงคาดการณ์ที่ 2.5% ตัวเลขนี้ก็ยังสูงกว่าตัวเลขอัตราการขยายตัวในปีที่แล้วที่ 1.6% และตัวเลขการขยายตัวในไตรมาสแรกของปี ที่ 2.2%
นายดอน กล่าวว่า ตัวเลขล่าสุดของสภาพัฒน์ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ถึง 3.0% หรือไม่ เพราะคิดว่าสภาพัฒน์มีแนวโน้มที่จะให้ตัวเลขที่สูงไว้ก่อน อย่างไรก็ดี หากพิจารณาข้อมูลจากรายงาน Asia Pacific Consensus Forecasts ฉบับล่าสุด (เดือนพฤษภาคม 2565) ซึ่งสำรวจความเห็นของสำนักวิจัยทั้งของไทย และของต่างประเทศ 22 สำนัก พบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.3% โดยมีเพียง 5 สำนักวิจัยเท่านั้นที่ให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 3.0% ซึ่ง 4 ใน 5 เป็นสำนักวิจัยในประเทศ สะท้อนว่าสำนักวิจัยต่างประเทศมีมุมมองบวกกว่าสำนักวิจัยไทย
นายดอน กล่าวว่า เมื่อมองไปข้างหน้า ความท้าทายของเศรษฐกิจไทยไม่ได้มีเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ยังมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และแนวโน้มที่เศรษฐกิจจีนจะชะลอลงแรง จากการระบาดของโอมิครอน
"ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ผมเชื่อในหลักการ Prepare for the worst, hope for the best ในช่วงแรกของขาลง เราประเมินการหายไปของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และแรงกระแทกต่อเศรษฐกิจต่ำไป ในช่วงแรกของขาขึ้น เราก็อาจจะประเมินการกลับมาของนักท่องเที่ยวนักต่างประเทศ และแรงหนุนต่อเศรษฐกิจต่ำไปได้เช่นกัน ขอเพียงรัฐบาลสามารถบริหารจัดการปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพได้ดี เศรษฐกิจไทยน่าจะมี upside ได้" นายดอน ระบุ