พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุน โดยเฉพาะความก้าวหน้าการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ถือเป็นแนวทางสำคัญของโลกและประเทศไทย ซึ่งมีการปรับปรุงพัฒนาไปหลายประการ เช่น การปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล รวมถึงการจัดการสินค้าเกษตรที่มีอนาคต การปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ผังเมือง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมชีวภาพ
นอกจากนี้ จะขยายระยะเวลามาตการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) การให้สิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษี ให้ผู้ประกอบการพลาสติกที่ย่อยสลายด้วยทางชีวภาพ การขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ในพื้นที่นำร่อง เช่น นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทพาร์คในพื้นที่ จ.ระยอง โครงการไบโอฮับเอเซีย ใน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นต้น โดยส่งเสริมในทุกภาคเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกันในอนาคต
ส่วนการพัฒนาความเป็นเลิศด้านชีวภาพของประเทศไทย ได้มีตั้งศูนย์ข้อมูลเชิงรุกในอุตสาหกรรมชีวภาพ เชื่อมโยงข้อมูลอุตสาหกรรม 3 ด้าน คือ พลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ และชีวเภสัชภัณฑ์ ซึ่งต้องรอดูความก้าวหน้า เพราะรัฐบาลได้ดำเนินการในทุกมิติ
"รัฐบาลพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง ซึ่งรัฐบาลดูแลสิทธิประโยชน์ วีซ่าระยะยาว สิทธิทางภาษี สิทธิการถือครองอสังหาริมทรัพย์ มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา กำหนดเป็นไปตามแผน เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทย ดังนั้นขออย่ากังวลในเรื่องนี้ เพราะทำอย่างรัดกุม" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมกันนี้ ยังมีมาตรการส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์ การถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ซึ่งมีการปรับรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างรายได้ สร้างชื่อเสียงภาพลักษณ์ที่ดีในประเทศไทย ทั้งการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวก One Stop Service ดำเนินการคัดกรอง สร้างสิ่งที่ดีต่อประเทศไทย และประเทศไทยมีศักยภาพเรื่องนี้อย่างมาก รวมทั้งยังมีการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรอบด้านและยั่งยืน เช่น ในพื้นที่ภูเก็ต พังงา กระบี่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงาน Expo วาระพิเศษ ที่ จ.ภูเก็ต ในปี 2571 เป็นต้น