เจดี พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซสิเอท บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ปรับลดคาดการณ์ยอดขายยานยนต์รุ่นใหม่ในสหรัฐประจำปีนี้ลงเกือบ 5% มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2537
เจดี พาวเวอร์ เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากความผันผวนในตลาดเงินนั้น ทำให้บริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายรถยนต์และรถบรรทุกในสหรัฐลงจากระดับ 15.7 ล้านคันมาอยู่ที่ 14.95 ล้านคัน โดยกล่าวว่า ผลการดำเนินงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ซบเซาทำให้บริษัทหลายแห่งต้องปรับตัวเลขคาดการณ์ที่ได้รายงานไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
เจฟฟ์ ซคัสเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของเจดี พาวเวอร์กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์อาจปรับตัวลดลงมาแตะที่ 12.3 ล้านคัน จากที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ที่ 12.6 ล้านคัน โดยตัวเลขที่คาดว่าจะลดลงนั้นพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและแรงจูงใจในการซื้อรถยนต์ที่ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ เขากล่าวเสริมว่า ผลกระทบดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายยานยนต์ขนาดใหญ่ เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้ผู้ซื้อหันไปสนใจใช้รถที่กินน้ำมันน้อยกว่า ซึ่งภาวะเช่นนี้ได้สร้างแรงกดดันต่อค่ายรถยักษ์ใหญ่สามแห่งในดีทรอยท์ที่เน้นผลิตรถยนต์อเนกประสงค์และรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นหลัก
ในภาวะเช่นนี้ ค่ายรถยนต์ต่างๆจะเผชิญอุปสรรคมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งโตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน บีเอ็มดับเบิ้ลยู และค่ายรถรายอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่ในดีทรอยท์เอง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ายอดขายตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านคัน โดยในเดือนก่อนหน้านี้ เจเนอรัล มอเตอร์ คอร์ปคาดว่ายอดขายในสหรัฐจะลดลงแตะที่ 16 ล้านคัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--