ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 33.70-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯในสัปดาห์ถัดไป (30 พ.ค.-3 มิ.ย.) ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนเม.ย.ของธปท. ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. และดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตเดือนพ.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน ข้อมูล JOLTS เดือนเม.ย. และรายงาน Beige Book ของเฟด นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนพ.ค. ของจีน ยุโรป และอังกฤษด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ (27 พ.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ 34.16 (หลังจากแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 34.09 ในช่วงระหว่างสัปดาห์) เทียบกับระดับ 34.26 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (20 พ.ค.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 6,870.3 ล้านบาท ขณะที่มีสถานะเป็น NET INFLOW เข้าตลาดพันธบัตร 10,643.2 ล้านบาท (โดยแม้จะมีการเข้าซื้อสุทธิพันธบัตร 20,589.2 ล้านบาท แต่ก็มีตราสารหนี้หมดอายุถึง 9,946 ล้านบาท)