ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนพ.ค. 65 ปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ 49.3 จากระดับ 48.2 เดือนเม.ย. 65 จากการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบ นำโดยด้านการผลิต ผลประกอบการ และคำสั่งซื้อที่ปรับเพิ่มขึ้นตามนโยบายการเปิดประเทศที่ผ่อนคลายขึ้น และประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนปรับลดลงมาก และต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ตามราคาพลังงาน และวัตถุดิบที่ทรงตัวในระดับสูง ประกอบกับการประกาศยกเลิกการตรึงราคาน้ำมันดีเซลในเดือนนี้ จึงทำให้ค่าขนส่งและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคบางส่วนทยอยปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งมีส่วนทำให้ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนของภาคที่มิใช่การผลิตปรับลดลง และกดดันให้เกิดความเชื่อมั่นโดยรวมของเกือบทุกธุรกิจในภาคที่มิใช่การผลิตปรับดีขึ้นได้ไม่มากนัก ยกเว้นกลุ่มค้าส่ง ที่คำสั่งซื้อและปริมาณการค้าปรับเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าเป็นการซื้อเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ราคาถูกลง เพื่อสะสมสต็อกหรือเพื่อล็อกต้นทุน
สำหรับภาคการผลิต ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นจากกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยางและพลาสติกเป็นสำคัญ เนื่องจากสามารถส่งผ่านต้นทุนได้ทันที ส่วนความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตอื่นๆ ลดลงหรือทรงตัว
โดยในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับลดลงจาก 54.1 ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ 52.4 จากการลดลงในทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นด้านต้นทุน โดยระดับความเชื่อมั่นลดลงทั้งในภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ของธุรกิจส่วนใหญ่ยังสูงกว่าระดับ 50 สะท้อนการคาดการณ์ว่าธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปัจจุบันเล็กน้อย ยกเว้นของกลุ่มก่อสร้าง และอสังหาฯ ที่แม้ดัชนีฯ จะปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 อย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นด้านต้นทุนที่อยู่ในระดับต่ำมากเป็นสำคัญ