นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เตรียมเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าทั้งหมดในวันที่ 20 มี.ค.เพื่อสรุปรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 โดยเฉพาะวงเงินที่จะใช้ทั้งหมด ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบในสัปดาห์หน้า
"จะมีการสรุปรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเงินที่จะอัดฉีดลงสู่ระดับรากหญ้า ก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบในสัปดาห์หน้า" แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าว
หน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง, โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน(SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)
"คาดว่าทุกโครงการจะเริ่มเปิดตัวในต้นเดือน เม.ย.นี้ โดยเฉพาะเอสเอ็มแอลถ้าได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเอสเอ็มแอลที่จะมีขึ้นเป็นครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 21 มีนาคมนี้" แหล่งข่าว กล่าว
โดยจะมีการเสนอให้เพิ่มเติมหมู่บ้านขนาด XL ในโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน(SML)ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้การอัดฉีดเงินงบประมาณเข้าสู่รากหญ้าทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยหมู่บ้านที่มีประชากรตั้งแต่ 1,500-3,000 คน จะได้รับการจัดสรรเงินประมาณ 350,000 บาท จากเดิมที่กำหนดให้หมู่บ้าน ขนาด S ได้รับเงิน 200,000 บาท ขนาด M ได้ 250,000 บาท และขนาด L ได้รับ 300,000 บาท
ล่าสุดกระทรวงการคลังได้รายงานว่างบประมาณโครงการอยู่ดีมีสุขที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายนั้นมีอยู่ประมาณ 9,000 ล้านบาท ขณะที่ สศช.รายงานว่ามีค้างอยู่ 3,500 ล้านบาท ดังนั้น จึงต้องตรวจสอบจำนวนเงินที่เหลืออยู่ให้ชัดเจนก่อนนำมาจัดสรร ซึ่งคาดว่าหมู่บ้านแต่ละแห่งจะได้รับการจัดสรรเงินตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า หลังจากเปิดตัวโครงการในเดือน เม.ย.นี้แล้ว รัฐบาลจะให้หมู่บ้านจัดทำประชาคมเพื่อเสนอโครงการให้คณะกรรมการอนุมัติภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ จากนั้นจะให้ ธ.ก.ส.และธนาคารออมสินโอนเงินไปให้แต่ละหมู่บ้านได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป
"เงินงบประมาณที่แต่ละหมู่บ้านได้รับการจัดสรรนั้นต้องเป็นโครงการที่เกิดจากความคิดความต้องการของประชาชนในหมู่บ้านเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากความคิดของส่วนราชการแล้วนำไปให้หมู่บ้าน เพื่อให้การใช้เงินเกิดประโยชน์และตรงกับความต้องการของหมู่บ้านมากที่สุด" แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนการประชุมคณะกรรมการเอสเอ็มแอลจะมีการรายงานผลการดำเนินงานในช่วงปี 47-50 ในช่วงที่ผ่านมาพบว่างบประมาณที่ได้รับนั้นประชากรนำไปใช้ในโครงการสวัสดิการชุมชนมากถึง 57,738 โครงการ หรือคิดเป็น 38% รองลงมา ได้แก่ โครงการด้านสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา จำนวน 51,505 โครงการ หรือ 33% นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในด้านโครงการเกษตร 13,024 โครงการ เป็นต้น
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--