เมอร์ริลลินช์เผยผจก.กองทุนทั่วโลกขยาดพิษศก. ส่งผลเม็ดเงินกองทุนพุ่งสูง

          ผลสำรวจกลุ่มผู้จัดการกองทุนซึ่งจัดทำโดยเมอร์ริล ลินช์ พบว่า ความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกอาจเผชิญกับภาวะ Stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น) นั้น ทำให้ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกไม่กล้าเสี่ยงเข้าลงทุน และทำให้เม็ดเงินสดในกองทุนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ แม้ผู้จัดการกองทุนเหล่านี้มองว่า มูลค่าในตลาดหุ้นยังอยู่ในระดับที่น่าลงทุนก็ตาม
          ผลสำรวจในเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า สถานะเงินสดของกลุ่มผู้จัดการกองทุนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย 42% ของผู้จัดการกองทุนที่ตอบรับการสำรวจกล่าวว่า เม็ดเงินสดในกองทุนของพวกเขามีอยู่มากเกินไป ขณะเดียวกันผลสำรวจบ่งชี้ว่า ดัชนีชี้วัดการเข้าเสี่ยงลงทุนของกลุ่มผู้จัดการกองทุน ยืนอยู่ที่ระดับ 31 จุด ลดลงจากระดับเฉลี่ยที่ 42 จุด
          เมอร์ริล ลินช์กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มผู้จัดการกองทุนไม่กล้าเข้าเสี่ยงลงทุนในระยะนี้เนื่องจากวิตกกังวลเรื่องภาวะ Stagflation โดยกว่า 70% ของผู้จัดการกองทุนที่ตอบรับการสำรวจเชื่อว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัวลงแต่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนจำนวนมากเชื่อว่าเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว หรืออาจจะถดถอยในเร็วๆนี้ 
          "กลุ่มผู้จัดการกองทุนที่วิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะ Stagflation มากเป็นพิเศษคือ กลุ่มผู้จัดการกองทุนในเอเชียและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยผู้จัดการกองทุนในเอเชียส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากกว่า 2 เท่าในปีนี้" เมอร์ริล ลินช์กล่าว
          อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้จัดการกองทุนยังคงมองว่า มูลค่าในตลาดหุ้นยังอยู่ในระดับที่น่าลงทุน โดย 25% ของผู้จัดการกองทุนที่ตอบรับการสำรวจเชื่อว่าตลาดหุ้นยังมีมูลค่าสูงกว่าตลาดตราสารหนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน