ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.52 อ่อนค่าตามภูมิภาค จับตาประชุม ECB คาดกรอบพรุ่งนี้ 34.40-34.60

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 8, 2022 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.52 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.45 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเย็นนี้ปรับตัวอ่อนค่าตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น โดย วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.43 - 34.52 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทแข็งค่าอยู่สักพักเดียว หลังจากที่รู้ผลประชุม กนง. ซึ่งหลังจากนั้นก็เริ่มกลับไปอ่อนค่า ตามทิศทางของ ภูมิภาค" นักบริหารเงิน ระบุ

สำหรับคืนนี้ ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงิน แต่ต้องจับตาวันพรุ่งนี้ที่จะมีการ ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะมีการส่งสัญญาณต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงเดือนก.ค. และ ก.ย.อย่างไร

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40 - 34.60 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 133.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 133.10 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0712 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0685 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,636.89 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 57,188 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,021.47 ลบ.(SET+MAI)
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดย
กรรมการเสียงข้างมาก เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยระยะต่อไปจะฟื้นตัวได้ตามคาด ขณะที่กรรมการ
เสียงข้างน้อย 3 เสียง เห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี
  • กนง. ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2565 เป็น 3.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดิมที่คาดไว้ 3.2% เนื่องจากตัวเลข
เศรษฐกิจในไตรมาส 1/2565 ออกมาดีกว่าที่คาด ประกอบกับเห็นสัญญาณการท่องเที่ยวกลับมาได้ไวขึ้น ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อ
ในปีนี้ จะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 6.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.9% จากผลของราคาพลังงาน โดยเงินเฟ้อจะสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
จากนั้นจะทยอยลดลง และเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566 ซึ่งทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.5% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 1.7%
  • ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ที่สำรวจในเดือน พ.ค.65 พบว่า ดัชนีใน
อีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 83.91 ลดลง 12.1% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยนัก
ลงทุนมองว่าการฟื้นต้วของภาคท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นมากที่สุด คือ นโยบาย
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow tracker แสดงให้
เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มหดตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 ซึ่งเข้าเกณฑ์การประเมินว่า เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะถดถอย
  • ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) 0.50% สู่ระดับ 4.90% ใน
การประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 2 เดือนติดต่อกัน โดยมีเป้า
หมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ผู้ก่อตั้งสตาร์ลิงค์ ซึ่งเป็นธนาคารดิจิทัล ออกมาตอกย้ำความเสี่ยงจากคริปโทเคอร์เรนซี โดยระบุว่า กระเป๋าเงิน
คริปโทฯ จำนวนมาก เชื่อมโยงโดยตรงกับระบบการชำระเงิน ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยของระบบการชำระเงินทั่วโลก
  • หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดโลก บริษัทเจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสูงถึงระดับ 150
ดอลลาร์/บาร์เรล พร้อมเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับราคาน้ำมันที่สูงขนาดนั้นได้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดนำเข้า ส่งออก ดุลการค้าเดือนเม.ย.,
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. จาก
มหาวิทยาลัยมิชิแกน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ