นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.47 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็ง ค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.55 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 34.46 - 34.56 บาท/ดอลลาร์ ตลาด น่าจะรอดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คืนนี้ และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพรุ่งนี้
"ทิศทางบาทวันนี้ sideway แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ผิดคาด ตลาดน่าจะรอปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.40 - 34.55 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 133.53 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 134.42 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0718 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0709 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,641.34 จุด เพิ่มขึ้น 4.45 จุด, +0.27% มูลค่าการซื้อขาย 80,431.33 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 994.10 ล้านบาท (SET+MAI)
- นายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงการคลังจัดหางบประมาณเพื่อใช้กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อช่วยฟื้นฟูการท่อง
เที่ยวในประเทศให้เติบโต และช่วยดูแลไม่ให้เงินตราไหลออกจากประเทศ
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค.65 อยู่ที่ระดับ
84.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 86.2 ในเดือน เม.ย.65 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากปัจจัยที่ส่งผลลบ
ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังคงยืดเยื้อและทวีความรุนแรง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์และ
ราคาวัตถุดิบต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังฟื้นตัวช้าจากปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อ
ของประชาชนลดลง
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค.65 อยู่ที่
ระดับ 40.2 ลดลงจากเดือน เม.ย.65 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 40.7 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 34.3, ดัชนี
ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 37.8 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 48.5
- อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชี้มติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ส่งสัญญาณอาจจะมีการปรับขึ้น
ดอกเบี้ยนโยบายได้เร็วๆ นี้ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น แต่หากสถานการณ์เงินเฟ้อยังไม่มีท่าทีรุนแรงไปมาก อาจจะมีการปรับดอกเบี้ย
ในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือต้นไตรมาส 4 แต่การขึ้นดอกเบี้ยยังไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แนะใช้นโยบายด้านการคลังดูแล
ราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ คาด กนง.จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.25% ในทุก
การประชุมที่เหลือของปี 65 ได้แก่ เดือนสิงหาคม กันยายน และพฤศจิกายน และจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายกลับเข้าสู่ระดับ
ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสที่ 1.25% ณ สิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.50%
- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เผยยอดส่งออกเดือน พ.ค.ของจีนขยายตัว 16.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่ง
กว่าในเดือน เม.ย.ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 3.9% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 8% ขณะที่การนำเข้าปรับตัวขึ้น
4.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวแข็งแกร่งในรอบ 3 เดือน และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2% ซึ่งข้อมูลดัง
กล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มกลับมาฟื้นตัว
- เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ประกาศจะล็อกดาวน์เขตหมินหัง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ช่วงเช้าวัน
เสาร์นี้ (11 มิ.ย.) เพื่อปูพรมตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นการใช้มาตรการควบคุมการเดินทางครั้งสำคัญเป็นครั้งแรก
นับตั้งแต่เซี่ยงไฮ้ประกาศยุติมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่ในวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
- รมต.ต่างประเทศของแคนาดา เผยแคนาดากำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ โดยสั่งห้ามการส่ง
ออกบริการ 28 รายการที่สำคัญสำหรับการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และเคมี รวมถึงบริการด้านเทคนิค การจัดการ
การบัญชี และการโฆษณา
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน