สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดแนะจีนปล่อยหยวนแข็งค่า เพื่อบรรลุเป้าคุมเงินเฟ้อ

ข่าวต่างประเทศ Thursday March 20, 2008 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องปล่อยให้สกุลเงินหยวนแข็งค่าเร็วขึ้นกว่าในปัจจุบัน เพื่อให้จีนบรรลุเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในยามที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง
"จีนกำลังเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งจีนจำเป็นต้องปล่อยให้สกุลเงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีก 15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ และควรให้แข็งค่าขึ้นอีก 7% ในปี 2552 ผมมองว่าจีนจำเป็นต้องปล่อยเงินหยวนแข็งค่าสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์" สตีเฟ่น กรีน นักวิเคราะห์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดกล่าว
"แม้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นแล้ว 3.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ แต่เงินหยวนกลับอ่อนค่าลง 3.2% เมื่อเทียบกับยูโร และอ่อนค่าลง 9.4% เมื่อเทียบกับเงินเยน ค่าเงินหยวนที่อยู่ในระดับต่ำเกินจริงทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้ามากเกินไป และก่อให้เกิดป้ญหาด้านเงินเฟ้อในที่สุด ทั้งๆที่เป้าหมายของรัฐบาลจีนคือการควบคุมเงินเฟ้อ เรามองว่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นในระดับปัจจุบันยังไม่มากพอที่จะสกัดเงินเฟ้อในจีนได้"
"ในอดีตนั้นจีนเคยประสบความสำเร็จในการควบคุมเงินเฟ้อมาแล้ว ด้วยการปล่อยให้เงินหยวนแข็งแกร่งขึ้น การปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าเร็วขึ้นก็จะช่วยให้ต้นทุนราคาน้ำมัน ถั่วเหลือง และเหล็กที่ซื้อขายในรูปสกุลเงินหยวน ปรับตัวลดลงด้วย"
"อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าแม้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีก 15% ก็ยังไม่ช่วยให้จีนแก้ปัญหาเงินเฟ้อให้หมดไปได้ แต่อย่างน้อยการปล่อยเงินหยวนให้แข็งขึ้นอีกจะช่วยให้จีนมีข้อได้เปรียบในการนำเข้าถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวจากทั่วโลก ที่ผ่านมานั้นจีนมัวแต่กังวลว่าการปล่อยเงินหยวนให้แข็งค่าจะทำให้จีนเสียเปรียบด้านการส่งออก" กรีนกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ