นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.78 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.76 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุดอ่อนค่าไปอยู่ที่ระดับ 34.83 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทอ่อนค่าในทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ และ บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากที่ตลาดคาดการณ์ว่า ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สัปดาห์นี้ มีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้มากกว่า 0.50% หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเดือนล่าสุดออกมาอยู่ในระดับ สูง
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.75 - 34.90 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (10 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.27924% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.71923%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.80 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 133.98 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0484 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0595 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.670 บาท/ดอลลาร์
- ก.อุตฯ เผยค่าเงินบาทอ่อนหนุนส่งออก ดันราคาสินค้าไทยถูกลง ขายได้มากขึ้น ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทย แนะผู้ประกอบ
- สศค.คาดจีดีพี ปี 66 ฟื้นตัวชัดเจน ดันรายได้รัฐบาลเพิ่ม 3.8% จากปี 65 โดยรายได้หลักมาจากการจัดเก็บภาษีของกรม
- ททท. รุกทำตลาดต่างชาติ ชูนโยบายสำคัญเท่ากัน ปักธงปี 2565 ดึงยุโรป-สหรัฐ-ตะวันออกกลางเที่ยวไทยเกือบ 4 ล้าน
- คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) หารือเรื่องการปรับราคาดีเซล รายสัปดาห์ที่ทยอยขึ้นแบบขั้นบันได
- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยรายงานรอบครึ่งปีว่าด้วยประเทศที่บิดเบือนค่าเงินในวันนี้ โดยไม่มีประเทศใดที่ถูกสหรัฐ
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (10 มิ.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการ
- หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด ทำให้นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในวันพุธ
- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการ
- ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม ธนาคารอังกฤษ (BoE) และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจจีน