กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.95 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.76 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 34.32-34.77 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 4:3 ให้ตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% เงินดอลลาร์ทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยูโรดิ่งลงหลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศจะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 1 ก.ค.65 และจะขึ้นดอกเบี้ย 25bp ในการประชุมเดือน ก.ค.65 รวมถึงส่งสัญญาณว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 25bp ในเดือน ก.ย.65 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ยิ่งไปกว่านั้น อีซีบีขาดความชัดเจนเกี่ยวกับการรับมือกับภาวะ Fragmentation หรือการที่ต้นทุนการกู้ยืมของแต่ละประเทศสมาชิกในยูโรโซนได้รับผลกระทบไม่เท่าเทียมกัน
ทางด้านเงินเยน แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ระบุการอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น ตราบใดที่เงินเยนยังเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 6,690 ล้านบาท และมียอดขายพันธบัตร 10,712 ล้านบาท โดยมีพันธบัตรที่ถือครองโดยต่างชาติครบอายุ 5,689 ล้านบาท
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ คาดว่า ตลาดจะติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 15 มิ.ย.65 โดยนักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 50bp จากปัจจุบันที่อยู่ในช่วง 0.75-1.00% หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค.65 ที่ 8.6% สูงเกินคาดและสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ตลาดจะให้ความสนใจกับความเห็นของประธานเฟด และประมาณการอัตราดอกเบี้ยโดยเจ้าหน้าที่เฟด (Dot Plot) นอกจากนี้ คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bp ในวันที่ 16 มิ.ย.65 ส่วนบีโอเจมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยตามเดิม อนึ่ง BAY คาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะได้แรงหนุนต่อเนื่อง ก่อนเฟดประกาศผลการประชุม ส่วนการแทรกแซงค่าเงินเยนโดยทางการญี่ปุ่นมีความเป็นไปได้สูงขึ้น
สำหรับปัจจัยในประเทศจากท่าทีล่าสุดของ กนง.ที่เปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับการประชุมครั้งก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เราคาดว่ามีโอกาสสูงที่ กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 10 ส.ค.65 โดย กนง.แสดงความกังวลต่อแรงกดดันด้านราคาในวงกว้างมากขึ้น ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการใช้นโยบายที่ผ่อนคลายจะมีความจำเป็นลดลงในระยะข้างหน้า
BAY ประเมินว่า ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ค.65 ที่พุ่งขึ้น 7.1% แรงกดดันจากประเทศต่างๆ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการไหลของเงินทุนนั้น ล้วนมีส่วนต่อการเปลี่ยนจุดยืนของ กนง.