นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินจำนวน 338.80 ล้านบาท ให้กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จังหวัดสตูล ตรัง ภูเก็ต พังงา และกระบี่) จำนวน 6 โครงการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะรองรับการท่องเที่ยวนานาชาติ จังหวัดสตูล โดยเป็นการปรับปรุงอาคารของโรงพยาบาลเสริมสร้างสุขภาพตำบลบ้านเกาะหลีเป๊ะ ให้สามารถรองรับประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ รวมทั้งเป็นการจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์วงเงิน 80.75 ล้านบาท
2. โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง เป็นการปรับปรุงศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง ให้มีความทันสมัยและดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสาน รวมทั้งปรับปรุงศูนย์อนุบาลสัตว์น้ำด้วย วงเงิน 68.80 ล้านบาท
3. โครงการ Phuket Health Sandbox จังหวัดภูเก็ต เป็นการจัดทำแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับให้บริการด้านสุขภาพ ทั้งการให้คำปรึกษา เรียกรถพยาบาล ดูประวัติการรักษาของตนเอง รวมทั้งการจัดตั้ง Digital Health Post เพื่อเป็นจุดสำหรับตรวจสุขภาพเบื้องต้นและพบหมอทางออนไลน์ด้วย วงเงิน 25.25 ล้านบาท
4. โครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา จังหวัดพังงา เป็นการก่อสร้างอาคารศูนย์กลางการท่องเที่ยว และลานกิจกรรมนันทนาการ เช่น ลานกิจกรรม ทางวิ่ง ทางเท้า เป็นต้น เพื่อให้เป็นสถานที่รองรับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย วงเงิน 80.00 ล้านบาท
5. โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร - ท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด จังหวัดกระบี่ เป็นการปรับปรุงท่าเทียบเรือและอาคารที่ใช้สำหรับรองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมทั้งรองรับต่อผู้ใช้บริการทุกประเภท โดยเฉพาะผู้ใช้บริการที่เป็นผู้พิการ วงเงิน 35.00 ล้านบาท
6. โครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จังหวัดกระบี่ เป็นการปรับปรุงและพัฒนาสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมให้มีภูมิทัศน์ที่สะอาด สวยงาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงให้ยังคงมีสภาพเดิมเป็นไปตามธรรมชาติด้วย วงเงิน 49.00 ล้านบาท
นายธนกร กล่าวว่า ทั้ง 6 โครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยในช่วงฤดูท่องเที่ยว (Low season) ตั้งแต่พฤษภาคม- กันยายน 65 นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาในประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 500,000 คน/เดือน สูงกว่าเป้าหมายก่อนนั้นตั้งไว้เพียง 300,000 คน/เดือน และในช่วงฤดูท่องเที่ยว (high season) ตั้งแต่ปลายตุลาคม-ธันวาคม 65 นี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 1,000,000 คน/เดือน โดยจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยผ่านโครงการต่างๆ เหล่านี้ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ด้วย