นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.05 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.98 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค จากความกังวลของนักลงทุนว่าธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐก็ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดอลลาร์แข็ง ค่า
"วันนี้บาทแตะ 35 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 5 ปี หลักๆ มาจากตลาดกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้แรง" นัก
บริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.95 - 35.10 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูผลการ ประชุมเฟดคืนนี้เป็นหลัก
THAI BAHT FIX 3M (14 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.09098% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.62139%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 135.05 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 134.28 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0448 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0441 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.951 บาท/ดอลลาร์
- นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ คณะกรรมการนโยบาย
การเงิน (กนง.) อาจมีการนัดประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าปรับขึ้น 0.25% และในการประชุมกน
ง.รอบปกติในวันที่ 10 ส.ค. จะขึ้นอีก 0.25% และในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ขึ้นอีก 0.25% รวมขึ้นติดต่อกัน 3 ครั้งที่ 0.75% ตลอดช่วงไตร
มาส 3 ปี 65 และเหลือครั้งสุดท้ายในรอบปีวันที่ 30 พ.ย. คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ ทำให้สิ้นปี 65 ดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 1.25% จาก
ปัจจุบันที่ 0.5%
- "ตลาดคริปโทโลก" ดิ่งผวาเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง ไบแนนซ์ ระงับถอนบิตคอยน์ "ศุภวุฒิ" ชี้เฟดอัดยาแรง ขึ้นดอกเบี้ย
0.75% สกัดเงินเฟ้อ เหมาะสม ถอดชนวนวิกฤติการเงิน "สุพัฒนพงษ์" ชี้สินรัพย์ดิจิทัล ดิ่งไม่กระทบเศรษฐกิจ "สตางค์" เตือนบิตคอยน์
ไร้แนวรับ ดาวน์ไซด์ 1-2 เดือน นายกสมาคมคริปโทจับตากลุ่มคนที่กู้เงิน-ขายสินทรัพย์เข้าลงทุน หากมีมากเสี่ยงเกิดวิกฤติ
- นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์การปรับลดลงของราคาสินทรัพย์ดิจิ
ทัลในขณะนี้ ว่า ในการลงทุนเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลมีหน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่ง
ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เตือนถึงความเสี่ยงในการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้มาเป็นระยะๆ เพราะมีความผันผวนสูงมาก และนักลงทุนต้อง
ประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง โดยขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร แม้มีนักลงทุนมาก แต่จำนวนเงิน
ลงทุนยังไม่มากและเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในตลาดหุ้น
- ก.ล.ต.เสนอบริษัทจดทะเบียน ต้องมีระบบบริหารความเสี่ยง ชี้สินทรัพย์ดิจิทัลเสี่ยงถูกโจรกรรมสูง พร้อมจัดให้มีระบบการ
ควบคุมแบบแบ่งหน้าที่ชัดเจน
- ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า WHO เตรียมประชุมฉุกเฉินในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาว่าการ
แพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในขณะนี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศหรือไม่
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการประชุมนโยบายการเงินเมื่อคืน
วานนี้ โดยนักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้
ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และมีกำหนดแถลงผลการประชุมในวันนี้ตาม
เวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น
0.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
- ตลาดพันธบัตรสหรัฐยังคงเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทน
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีดีดตัวสูงกว่าอายุ 10 ปีและ 30 ปี ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (14 มิ.ย.) โดย
ดัชนีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.75% หลังตัว
เลขเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสูงกว่าคาด
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันอังคาร (14 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจาก
การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมิ.ย.จาก
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.
ค., และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.