ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: นลท.ขายทองแห่ซื้อดอลล์ หนุนดอลล์พุ่งเทียบยูโร

ข่าวต่างประเทศ Friday March 21, 2008 07:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค.เมื่อเทียบกับสกุลยูโร เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบและทองคำ เพื่อนำเงินเข้าซื้อดอลลาร์อย่างคึกคัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5414 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.5632 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.9834 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9836 ดอลลาร์/ปอนด์
ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.7911 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7975 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.8986 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9117 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนและฟรังซ์สวิส โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 99.150 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 98.740 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0111 ฟรังซ์/ดอลลาร์ จากระดับ 0.9966 ฟรังซ์/ดอลลาร์
เจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงเพียง 0.75% ไม่ใช่ 1.00% ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้นั้น ยังคงเป็นปัจจัยที่หนุนดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงอย่างมากอาจทำให้เฟดลดดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งจะส่งผลกดดันดอลลาร์โดยตรง"
นักลงทุนและเฮดจ์ฟันด์กระหน่ำขายสัญญาน้ำมันและทองคำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดิ่งลง 70 เซนต์ แตะระดับ 101.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 98.65 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำร่วงลง 25.30 ดอลลาร์ แตะระดับ 920.00 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันและทองคำเพื่อนำเงินเข้ามาซื้อคืนดอลลาร์ และเนื่องจากตลาดสหรัฐและตลาดยุโรปจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 21 มี.ค.เนื่องในวัน Good Friday จึงทำให้นักลงทุนจำนวนมากปรับฐานการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารเครดิต สวิส เปิดเผยว่า ธนาคารอาจขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี ในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ พร้อมกับกล่าวว่า การตั้งบัญชีสำรองหนี้สูญมูลค่ากว่า 2.65 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 4 ของปีที่แล้วและไตรมาสแรกของปีนี้ โดยทำให้รายได้สุทธิลดลงกว่า 789 ล้านฟรังค์ (788 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เหลือเพียง 540 ล้านฟรังค์ ในไตรมาส 4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ