รมว.พาณิชย์ นำทีมบุกตลาดไอซ์แลนด์ ขายตรงสินค้าแบรนด์ไทย หวังปีนี้ส่งออกเกิน 10%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 20, 2022 11:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.พาณิชย์ นำทีมบุกตลาดไอซ์แลนด์ ขายตรงสินค้าแบรนด์ไทย หวังปีนี้ส่งออกเกิน 10%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ แถลงภายหลังเป็นประธานกิจกรรมบุกตลาดไอซ์แลนด์ Top Thai Products Networking @Iceland ว่า ได้มีโอกาสประชุมร่วมกับภาคเอกชนของไอซ์แลนด์ที่เป็นผู้นำเข้าสินค้าไทย และประสงค์นำเข้าสินค้าไทยมากขึ้นในอนาคต ภาพรวมการค้าไทยกับไอซ์แลนด์นั้น ไอซ์แลนด์เป็นประเทศมีประชากรประมาณ 3 แสนกว่าคน แต่เป็นประเทศที่มีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจสูง แต่มูลค่าการค้าไทยกับไอซ์แลนด์ยังน้อย เพราะถือเป็นตลาดใหม่ของไทย

"มีนโยบายต้องการส่งออกสินค้าไทยมาที่นี่มากขึ้น ปีที่แล้วตัวเลขการค้าระหว่างไทยกับไอซ์แลนด์ มีมูลค่า 782 ล้านบาท ไทยส่งออกมาที่ 212 ล้านบาท ซึ่งน้อยมาก อนาคตเชื่อว่าจะดีขึ้น ปี 65 ตัวเลขส่งออกมากขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% สินค้าที่ไอซ์แลนด์นำเข้าจากไทยเช่น อวนจับปลา ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องกีฬา ข้าวและผลิตภัณฑ์จากยาง ส่วนสินค้าที่ประเทศไทยนำเข้าจากไอซ์แลนด์ เช่น อาหารทะเลแช่แข็งเนื้อสัตว์ รวมทั้งผักสด ผลไม้แปรรูป เป็นต้น" นายจุรินทร์ กล่าว
รมว.พาณิชย์ นำทีมบุกตลาดไอซ์แลนด์ ขายตรงสินค้าแบรนด์ไทย หวังปีนี้ส่งออกเกิน 10%

โดยเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ได้มีการหารือระหว่างเอกชนผู้นำเข้าไอซ์แลนด์กับไทย โดยมีผู้นำเข้าสำคัญ 7 ราย ทั้งผู้นำกลุ่มนักธุรกิจสตรีจากไอซ์แลนด์ และชาวไทยบางส่วนที่ทำธุรกิจนำเข้าสินค้า เจ้าของร้านอาหารไทย ซึ่งที่นี่มีร้านอาหารไทยถึง 14 ร้านที่ได้รับความนิยม สำหรับประเด็นหารือในครั้งนี้ ได้แก่

1. ผู้นำเข้าต้องการสินค้าไทยที่ได้มาตรฐานยุโรป รวมทั้งต้องการสินค้าไทยที่มีปริมาณมากพอที่จะสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไอซ์แลนด์ ซึ่งสินค้าอาหารไทยที่ส่งออกไปทั่วโลกปีละกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ได้มาตรฐานยุโรป ยกเว้นรายย่อย ซึ่งได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จับคู่ธุรกิจระหว่างผู้นำเข้าไอซ์แลนด์กับผู้ผลิตผู้ส่งออกไทยที่ได้คุณภาพมาตรฐานยุโรป ผ่านระบบออนไลน์เพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออก

2. ผู้นำเข้าเป็นห่วงเรื่องการนำเข้าสินค้าไทยที่อดีตมีช่วงเวลาจำหน่ายน้อย การจัดจับคู่เจรจาธุรกิจจะช่วยให้การนำเข้าสินค้าตามมาตรฐาน ว่าต้องไม่หมดอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปีครึ่งจะได้มีเวลาจำหน่ายได้ยาวนาน

3. เรื่องค่าใช้จ่ายของผู้นำเข้า ที่ผ่านกระบวนการนำเข้าหรือค่าชิปปิ้งยังสูงมาก ซึ่งวันนี้ (20 มิ.ย.) จะนับหนึ่งประวัติศาสตร์การลงนามร่วมระหว่างไทยกับ 4 ประเทศ ที่เป็นสมาชิกสมาคมเสรีการค้ายุโรป (EFTA) ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ลิกเตนสไตน์ และไอซ์แลนด์ กับไทย ซึ่งจะเริ่มต้นเจรจา ถ้าสำเร็จการนำเข้าสินค้าไทยมาไอซ์แลนด์จะคล่องตัว ลดค่าใช้จ่ายรวมทั้งภาษีระหว่างกันเป็น 0 ในอนาคต

4. มีผู้นำเข้าได้หยิบยกประเด็นเรื่องร้านอาหารไทยมาหารือ ให้ร้านอาหารไทยในไอซ์แลนด์เป็นอาหารไทยแท้ ที่ไม่ดัดแปลงจนเสียอัตลักษณ์ โดยขอให้ทูตพาณิชย์ที่ดูแลร้านอาหารไทยที่ไอซ์แลนด์กำชับและติดตามต่อไป อาหารไทยแท้จะให้ตรา Thai Select ซึ่งเป็นตราการันตีความเป็นอาหารที่มีอัตลักษณ์ของความเป็นไทยให้คนไอซ์แลนด์มั่นใจ และขอความร่วมมือคนไทยทำอาหารไทย อย่าทำให้เสียความเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทย

5. นักธุรกิจไอซ์แลนด์แจ้งว่าสนใจสินค้าสุขภาพและอาหารสุขภาพหรือออร์แกนิกจากไทยมาก เพื่อใช้ในสปาสมุนไพรไทย เป็นต้น เราจะจัดผู้ส่งออกผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องมาพบกับผู้นำเข้าผ่านระบบ Zoom ต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมกันเดินหน้าในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับไอซ์แลนด์ คือ 1. เริ่มต้นจาก mini Exhibition นำสินค้าไทยทั้งส่งออกโดยตรง และรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ต่างประเทศมาแสดง 2. จะมุ่งเน้นส่งสินค้าไทยมาไอซ์แลนด์โดยตรงให้มากขึ้น ประสานกับผู้นำเข้าสินค้าไทยที่เป็นแบรนด์ไทยมากขึ้นต่อไป 3. จะจัดจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้นำเข้าไอซ์แลนด์กับผู้ส่งออกผู้ผลิตของไทย 4. ไทยจะมาจัดการส่งเสริมการขายสินค้าไทยในห้าง หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตของไอซ์แลนด์ให้มากขึ้น 5. ไทยจะเร่งรัดการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ EFTA ให้คืบหน้าเร็วที่สุด และ 6. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะเชิญผู้นำเข้าร่วมงาน THAIFEX-Anuga Asia ในปีหน้า ซึ่งหวังว่ามูลค่าทางการค้าระหว่างไทยกับไอซ์แลนด์จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ในปีนี้

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า กิจกรรมที่เมืองเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ จัดกิจกรรมบุกตลาดสินค้าไทยในไอซ์แลนด์โดยวิธีการ Sourcing ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขาย ได้พบหารือสร้างเครือข่ายทางการค้าระหว่างกัน ซื้อขายสินค้าโดยตรงระหว่างกันให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ เป็นตลาดที่มีผู้บริโภคขนาดเล็ก มีประชากรจำนวนประมาณ 371,580 คน แต่เป็นผู้บริโภคที่มีรายได้ต่อหัวสูงถึง 54,482 เหรียญสหรัฐ โดยกรุงเรคยาวิก เมืองหลวงของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ราว 131,136 คน เป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนของไอซ์แลนด์ และได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ประชากรมีสุขภาพที่ดีที่สุดของโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ