นาย Jeremy Zook ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดอันดับเครดิตประเทศ ภูมิภาคเอชีย-แปซิฟิค ของบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัดกล่าวในการบรรยายในงานสัมมนา หัวข้อ "2022 Thailand Sovereign and Bank Outlook" ว่า จากการประมาณการคาดว่าเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 65 จะมีอัตราการเติบโตที่ 3.2% และปี 66 เติบโตที่ 4.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงและการชะลอตัวของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการประมาณการของฟิทช์
ส่วนอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงฐานะการเงินต่างประเทศของไทยที่ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งต่อเนื่อง และมีกรอบนโยบายด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการกับความผันผวนทางเศรษฐกิจและการภาวะเครดิตของโลกที่ตึงตัวมากขึ้น
ด้านนายพาสันติ์ สิงหะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของภาคธนาคารไทยในปี 65 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่โอกาสที่ระดับการฟื้นจะดีกว่าคาดการณ์นั้นมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโรคระบาดโควิด-19
โดยฟิทช์ คาดว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพน่าจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ จากการที่มาตรการผ่อนปรนจะทยอยหมดอายุลง อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง น่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเติมในระดับที่สูง