นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสที่คณะนักธุรกิจซาอุฯ เดินทางเยือนไทย ซึ่งวันนี้ได้ประชุมหารือเป็นกรณีพิเศษในเรื่องการนำเข้าปุ๋ยจากซาอุฯ
ทั้งนี้ ตามปกติประเทศไทยจะนำเข้าปุ๋ยจากซาอุดีอาระเบีย ผ่านบริษัทยักษ์ใหญ่ คือ บริษัท SABIC (Saudi Basic Industries Corporation) ซึ่งมีผลผลิตปุ๋ยยูเรีย ปีละ 2.2 ล้านตัน และประเทศไทยเป็นลูกค้ารายสำคัญของบริษัท ซึ่งข่าวดี คือขณะนี้ทางการซาอุฯ เปิดโอกาสให้บริษัทที่ผลิตปุ๋ยของซาอุฯ อีก 2 บริษัท สามารถเจรจาขายปุ๋ยให้กับประเทศไทยได้ คือ บริษัท MA'ADEN(Saudi Arabian Mining Co.) และบริษัท ACO group ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Alim Investment Co. Ltd.
โดยเบื้องต้น ไทยประสงค์จะซื้อปุ๋ยจากซาอุฯ รวม 8 แสนตัน เป็นปุ๋ยยูเรีย 5.9 แสนตัน ปุ๋ยฟอสเฟต 1.93 แสนตัน และปุ๋ยโพแทสเซียม 2.5 หมื่นตัน ซึ่งในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะจัด Business Matching จับคู่ธุรกิจให้มีการพบกันระหว่างผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่ 3 รายของซาอุฯ กับผู้นำเข้าปุ๋ยของไทยทั้งหมดที่สนใจ เพื่อช่วยให้การเจรจาซื้อปุ๋ยจากซาอุฯ เป็นรูปธรรม แก้ปัญหาทั้ง 2 เรื่อง คือ 1. ประเทศไทยจะมีปริมาณปุ๋ยพอใช้สำหรับเกษตรกร มีหลักประกันมากขึ้น เพราะมีแหล่งนำเข้าพิเศษเพิ่มเติม และ 2. เรื่องราคาที่เป็นหน้าที่ของเอกชนจะเจรจา ซึ่งคาดว่าจะได้ต้นทุนที่ต่ำลงเป็นกรณีพิเศษจากความสัมพันธ์ที่มีต่อกันต่อไป
รายงานข่าวจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ได้ประสานไปยังรัฐบาลซาอุฯ เพื่อพิจารณาแล้ว และได้รับคำยืนยันว่าซาอุดีอาระเบียยินดีที่จะส่งออกปุ๋ยมาตามจำนวนที่ประเทศไทยต้องการ
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ภาคเอกชนของซาอุฯ จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย โดยมีหอการค้าไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อตอบรับกิจกรรมการค้า-การลงทุนระหว่างกัน ในช่วงวันที่ 4-6 ก.ค. 65 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจให้ระหว่างผู้นำเข้าของซาอุฯ ที่เดินทางมาไทยประมาณ 100 ราย และผู้ส่งออกไทยร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 120 ราย ที่ห้างไอคอนสยาม เพื่อจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างกัน หวังว่าจะเพิ่มยอดตัวเลขการส่งออกของไทยไปซาอุฯ มากขึ้น โดยจะมีสินค้าที่หลากหลายทั้ง สินค้าไอที อิเล็กทรอนิกส์ อัญมณี อาหาร เสื้อผ้า แฟชั่น สุขภาพความงาม บริการด้านโลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว เป็นต้น
การส่งออกว่าจะขยายตัวได้ถึง 6.2% หรือประมาณ 54,691 ล้านบาท ทั้งนี้ปี 2564 การค้ารวมไทยซาอุดีอาระเบียมีมูลค่า 233,075 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบียมีมูลค่า 51,500 ล้านบาทและไทยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย 181,524 ล้านบาท