พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้เห็นชอบให้ยกเว้นอากรคาร์ซีทสำหรับเด็กที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่จัดเก็บในอัตรา 20% โดยให้มีผลถัดจากวันที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาจนถึงสิ้นปี 2566 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน เนื่องจากคาร์ซีทในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ร่างประกาศกระทรวงการคลัง กำหนดยกเว้นอากร สำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) เฉพาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กนำเข้ามาโดยให้ยกเว้นอากร โดยให้จัดเก็บอัตราอากร 20% ตามเดิม เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน สนับสนุนด้านความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับที่ 13 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 65
ปัจจุบันตลาดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กส่วนใหญ่ เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ และยังมีผู้ประกอบการไทยที่ผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กจำนวนน้อย เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศที่ผ่านมามีจำนวนไม่มากพอ ที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีการลงทุน
อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เห็นว่า การลดอัตราอากรขาเข้าสำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสนับสนุนการลดราคาให้กับผู้บริโภค ประกอบกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2565 คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณความต้องการใช้ในประเทศสูงขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก อาจสนใจที่จะลงทุนผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศเพิ่มมากขึ้น