นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถามสดถึงปัญหาวิกฤตพลังงานที่พุ่งสูงถึง 30% และต้องใช้งบประมาณเยียวยากว่า 5 แสนล้านบาทว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้อรัฐบาลมีแผนสำรองเพื่อแกัปัญหาหรือไม่ รวมถึงกรณีที่รัฐบาลตั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูแลแผนแก้วิกฤตพลังงาน วิกฤตอาหาร เนื่องจากไม่พบว่ามี รมว.พลังงาน หรือ รมว.พาณิชย์ ร่วมเป็นคณะทำงาน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ชี้แจงว่า รัฐบาลมีแผนและมาตรการช่วยเหลือประชาชนผ่านเครื่องมือทางการคลัง เช่น ลดภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อราคาขนส่ง ค่าครองชีพ นอกจากนั้นจะมีมาตรการพยุงราคาและตรึงราคา ส่วนการเจรจากับโรงกลั่นเรื่องการลดค่าการกลั่นนั้นคาดว่า 1-2 วันนี้จะมีความคืบหน้า และอยู่ระหว่างหามาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม
นายอาคม ชี้แจงถึงกรณีให้ สมช.ดูแลแผนแก้วิกฤตพลังงานและอาหารว่า สมช.เป็นหน่วยงานความมั่นคง ทั้งมั่นคงของประเทศ การทหาร เศรษฐกิจและสังคม สำหรับประเด็นที่เป็นห่วงในเรื่องของความเชี่ยวชาญนั้น อาจต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ มากกว่า แต่เชื่อว่า สมช.จะแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ และจะได้รับความร่วมมือ
"ขณะนี้นายกฯ มอบหมายให้ สมช.หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรการทั้งหมด ที่ผ่านมาประชุมแล้ว 2 ครั้งเข้าใจว่าน่าจะมีข้อสรุปและมาตรการต่างๆ เสนอแนะนายกฯ ต่อไป รวมถึงแผนหนึ่งแผนสอง ยกระดับแต่ละแผนเรื่องอะไรบ้าง" นายอาคม กล่าว
ในตอนท้ายของการถามกระทู้สด นายพิธาได้ตั้งคำถามถึงการเลื่อนโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางไฟฟ้าออกไป เพราะต้องรอสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ พิจารณา โดยนายอาคม ยอมรับว่า โครงการดังกล่าวต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะการจัดหารถโดยสารประจำทางไฟฟ้ามาแทนรถประจำทางเอ็นจีวีต้องผ่านการพิจารณาของสภาพัฒน์