นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือกับโรงกลั่นว่า ยังรอคำตอบจากโรงกลั่น ซึ่งคณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเจรจากันอยู่ และเชื่อว่ากลุ่มโรงกลั่นคงพิจารณาในทางที่ดี ซึ่งวันนี้ยังประชุมกันอยู่ ส่วนที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางโรงกลั่นบอกว่ายังติดขัดเรื่องข้อกฏหมายและจะรวบรวมประเด็นไปสอบถามจากทางกฤษฏีกา พร้อมยืนยันว่าไม่เคยขอบริจาคเงินจากโรงกลั่นแทนการออกฏหมาย
"ไม่เคยขอใคร เขาจะบริจาคก็บริจาค ไม่เคยเที่ยวไปขอใคร อยากให้เข้าใจ เดี๋ยวไปนึกว่าเราไปบังคับเขา แต่ให้เขาพิจารณาเองว่าจะมารูปแบบไหน"นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ส่วนความเป็นไปได้ที่จะขอความร่วมมือจากทางโรงกลั่นในระยะเฉพาะหน้า 2-3 เดือนนั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า โรงกลั่นเป็นบริษัท อย่าไปเรียกขอความเห็นใจ แต่ต้องให้ทางบริษัทไปพิจารณา เพราะบริษัทเหล่านี้อยู่ในดัชนีเพื่อความยั่งยืน เวลาทำธุรกิจไม่ได้ทำเพื่อกำไรสูงสุดอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อธิบายผู้ถือหุ้นได้อยู่แล้ว ถ้าเรื่องใดทำแล้วอยู่ในระดับที่เหมาะสมก็ทำได้อยู่แล้ว และเรื่องนี้เป็นนโยบายแต่ละบริษัท
ส่วนจะให้โรงกลั่นสมัครใจอาจเป็นเรื่องยาก และทางโรงกลั่นเองอาจอยากให้มีกฏหมายมาบังคับ เพื่อไม่ให้มีผลกับผู้ถือหุ้น นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นแบบนั้นได้ แต่ทางโรงกลั่นได้หยิบข้อกฏหมายขึ้นมา จึงต้องสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฏีกาก่อน เพราะหากไปบังคับไปผิดข้อกฏหมายก็เป็นสิ่งไม่ดี แต่สัญญาณในขณะนี้คือ ทางโรงกลั่นก็ยังเจรจากันอยู่ ซึ่งตนเองก็อยากให้ได้คำตอบโดยเร็วที่สุด
การจะใช้ข้อกฏหมายเพื่อบังคับทางโรงกลั่นหรือไม่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ทำได้ 2 แบบ หากกฏหมายไม่ชัดเจนในมุมของเขา ทางโรงกลั่นใช้วิธีการสมัครใจเอง หรือบางบริษัทอาจทำได้ หรือทำได้ทั้งหมดให้รอฟังผลการหารือก่อน
"เขาต้องพิจารณา ให้ไปดูในหลายๆประเทศ พบว่า การ Take action ในสภาพตลาดเสรียากมาก แต่ถามกฏระเบียบเรามี ศึกษาอยู่ แต่ความร่วมมือดีที่สุด แม้แต่สหรัฐอเมริกายังต้องเป็นการขอความร่วมมือจากประธานาธิบดีไปยังผู้ประกอบการ แต่ดีที่สุดคือ ความสมัครใจ "นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว