บมจ.กสท โทรคมนาคม(CAT) คาดปี 51 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,075 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน โดยมีรายได้รวมก่อนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ตรวจสอบอยู่ที่ 47,977 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจซึ่งเป็นสัญญาร่วมการงานที่คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้น 145% จากปีก่อน
"ปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25% จากรายได้รวมก่อน สตง.ตรวจสอบ 47,977 ล้านบาท" นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม กล่าว
โดยในปี 50 กสท.มีรายได้รวมก่อน สตง.ตรวจสอบ 47,418 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 52% จากปี 49 และมีกำไรสุทธิ 7,688 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 66% จากปี 49
"ปีก่อนเราคาดว่ารายได้จะลดลงมาก เนื่องจากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศถูกคู่แข่งแย่งส่วนแบ่งตลาดไป แต่หลังจากหามาตรการรองรับแล้วรายได้ลดลงไปน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มีกำไรสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5 พันล้านบาท" นายพิศาล กล่าว
ทั้งนี้ กสท.ต้องเร่งปรับแนวทางการบริหารเนื่องจากคาดว่า ในช่วง 2 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้และส่วนแบ่งตลาดจากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศจะลดลงจึงจำเป็นต้องหารายได้จากกลุ่มธุรกิจอื่น เช่น อินเตอร์เน็ต, บรอดแบนด์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว, กัมพูชา และพม่า
"ในช่วง 5 ปีนี้จะเร่งพัฒนาบุคลากร แต่ช่วงแรกคงต้องใช้การหาพันธมิตรทางธุรกิจก่อน...และปีนี้จะเร่งเปิดให้บริการธุรกิจ 3G เพื่อรักษาฐานลูกค้า" นายพิศาล กล่าว
นายพิศาล ยอมรับว่า การที่ กสท.ไม่มีฐานลูกค้าที่ใช้บริการแต่มีรายได้จากการให้สัมปทานนั้น ในอนาคตจะมีปัญหาเรื่องรายได้ อีกทั้งยังประสบปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ทำให้การพัฒนาธุรกิจเกิดความไม่คล่องตัวและหยุดชะงัก
อย่างไรก็ดี วันพรุ่งนี้(24 มี.ค.) กสท.จะนัดหารือกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ(SIPA) และ บมจ.ทีโอที เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาให้ จ.ภูเก็ต เป็นเมืองไอทีภายในปี 52
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--