นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ค่าเงินบาทใกล้ทะลุ 36 บาท/ดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้เงินบาทอ่อนสุดในรอบ 5.5 ปีที่ระดับ 35.997 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยและเริ่มดึงสภาพคล่องกลับ หลังผ่านวิกฤต Subprime ซึ่งในช่วงนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เคยให้เงินบาทอ่อนค่าลงมาถึงประมาณ 35-36.5 บาท/ดอลลาร์
หากรอบนี้ค่าเงินบาทอ่อนต่อเนื่องไปทะลุ 36.5 บาท/ดอลลาร์ จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งต้องรอดูว่า ธปท.จะยอมปล่อยให้ค่าเงินบาทอ่อนได้อีกมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากจะเกิดผล 2 ทางเลือกระหว่าง 1.ผลดีจะเกิดกับภาคเกษตร ท่องเที่ยวและส่งออก กับ 2.ผลกระทบต่อต้นทุนราคาพลังงานและปัญหาเงินเฟ้อที่สูงอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ได้ขึ้นไปอยู่ที่ 7.66%
การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ มาจากการที่นักลงทุนกังวลใจเรื่องภาวะเศรษฐกิจของยุโรปที่อาจจะเกิดปัญหาหนัก หากรัสเซียตัดสินใจตัดการส่งก๊าซให้ ซึ่งจะทำให้ยุโรปที่อ่อนแออยู่แล้ว จากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นสูง เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
หากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ตั้งใจจะขึ้นดอกเบี้ยได้ ทำให้นักลงทุนปรับมุมมองเรื่องค่าเงินยูโร ซึ่งเมื่อคืนนี้อ่อนลงอย่างรวดเร็วมาที่ 1.0235 ดอลลาร์/ยูโร อ่อนสุดในรอบ 19 ปี พร้อมไปแตะระดับ 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 1 ยูโร ขณะเดียวกันหลังนักลงทุนออกจากยูโรก็วิ่งไปที่ดอลลาร์ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาที่ 106.792 แข็งค่าสุดในรอบ 20 ปี ซึ่งนับจากต้นปีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาประมาณ 12%
"สำหรับผู้ส่งออกนำเข้าช่วงนี้คงต้องพยายามปิดความเสี่ยงเรื่องค่าเงินครับ เพราะปีนี้อะไรอะไรก็เกิดได้ หลายอย่างไม่ได้ขึ้นกับ Fundamental แต่มาจากการตัดสินใจของคน สมกับที่เป็นปีของความผันผวน หรือ Economic Turbulence 2022 ครับ" นายกอบศักดิ์ ระบุ