นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดตั้ง "กองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า (กองทุน FTA)" เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งเดินหน้ายกร่าง "พ.ร.บ.กองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า พ.ศ. ..." หรือ พ.ร.บ.กองทุน FTA
ขณะเดียวกัน พร้อมเริ่มกระบวนการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน โดยเปิดโอกาสให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประกอบการ ภาคเกษตร ภาคประชาสังคม ภาครัฐ และภาคเอกชน ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายการจัดตั้งกองทุน FTA ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว จะดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาตามกระบวนการตรากฎหมาย เพื่อให้มีผลการจัดตั้งกองทุน FTA ตามมติครม. ต่อไป
กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญกับการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทย โดยได้มีการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ เพื่อขยายความร่วมมือทางการค้าและทางเศรษฐกิจอื่นๆ รวมทั้งยังได้ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการไทย โดยส่งเสริมให้สามารถใช้ประโยชน์จาก FTA มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
"การจัดทำ FTA ยังถือเป็นความท้าทาย เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ดังนั้น ภาครัฐจึงจำเป็นที่จะต้องเข้ามาช่วยเหลือเยียวยากลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า จะสามารถดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายสินิตย์ กล่าว
ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แนวคิดการจัดตั้งกองทุน FTA เกิดจากเสียงเรียกร้องจากภาคส่วนต่างๆ ที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังความเห็น ซึ่งได้ขอให้มีกลไกความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก FTA ให้สามารถปรับตัวรับมือกับการแข่งขันในตลาดการค้าเสรี
นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทุน FTA ยังเป็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลง CPTPP ของรัฐสภา ที่เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก FTA อีกด้วย
ทั้งนี้ การจัดตั้งกองทุน FTA อย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นกลไกช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก FTA ให้สามารถปรับตัวรับมือกับการแข่งขันจากตลาดการค้าเสรี โดยจะให้ความสำคัญในการพัฒนาความพร้อมและศักยภาพทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย รวมทั้งสามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จาก FTA
"ผู้ที่ประสงค์จะเสริมสร้างศักยภาพและใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA สามารถขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนนี้ได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นการดำเนินนโยบายของภาครัฐในการจัดทำ FTA แก่ทุกภาคส่วน เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและรักษาความสามารถในการแข่งขันของไทย อีกทั้งยังสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 178 ที่ได้กำหนดให้มีการเยียวยาที่จำเป็นอันเกิดจากผลกระทบทางด้านนี้" นางอรมน กล่าว