โพล ส.อ.ท. ชี้ราคาพลังงานดันต้นทุนการผลิตเพิ่ม ยอมหั่นกำไรรักษายอดขาย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 6, 2022 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll หัวข้อ "ภาคอุตสาหกรรม จะรับมือกับวิกฤตพลังงานแพงอย่างไร" ซึ่งเป็นการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 165 คน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด

ผลการสำรวจพบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่าจากวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 20% สวนทางกับการปรับราคาขายสินค้าและบริการในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการปรับเพิ่มขึ้นได้น้อยกว่า 10% เนื่องจากต้องการรักษายอดขาย ขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมราคาสินค้าของรัฐ

ทั้งนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. คาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกช่วงครึ่งหลังของปี 65 จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 120-140 ดอลลาร์ต่อบาเรล จากภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ ประกอบกับมาตรการตอบโต้ระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซียที่มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการที่สหภาพยุโรป (EU) มีมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 90% ภายในสิ้นปีนี้

ดังนั้น ผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอขอให้ภาครัฐพิจารณาขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค. 65 ออกไปอีก 2-3 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ

ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตพลังงานในระยะยาว ภาครัฐควรมีการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจและภาคประชาชน สนับสนุนให้เกิดการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงานในภาคการผลิต ควบคู่ไปกับการทบทวนโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เร่งปรับตัวรับมือกับวิกฤตพลังงานด้วยการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงาน ปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน รวมทั้งนำระบบการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System: EMS) มาใช้และปรับแผนการผลิต หรือโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนพลังงานในช่วงนี้

สำหรับผลการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) สรุปได้ดังนี้

1. ภาวะราคาพลังงานแพงในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอย่างไร

อันดับที่ 1 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 20% ที่ 38.8%

อันดับที่ 2 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 10% ที่ 30.3%

อันดับที่ 3 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 30% ที่ 23.0%

อันดับที่ 4 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 40% ที่ 7.9%

2. ผลกระทบของต้นทุนราคาพลังงานและวัตถุดิบแพง ทำให้อุตสาหกรรมต้องปรับราคาขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นแล้วเท่าใด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี 65

อันดับที่ 1 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น น้อยกว่า 10% ที่ 44.9%

อันดับที่ 2 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น 10-20% ที่ 38.8%

อันดับที่ 3 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น 20-30% ที่ 12.7%

อันดับที่ 4 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น มากกว่า 30% ที่ 3.6%

3. แนวทางการดำเนินงานในเรื่องใด ที่คิดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากราคาพลังงานแพงในช่วงนี้

อันดับที่ 1 : ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร 62.4%

อันดับที่ 2 : ขอความร่วมมือโรงกลั่นฯ ลดกำไรจากค่าการกลั่น และนำมาช่วยลดราคาน้ำมันสำเร็จรูป 60.6%

อันดับที่ 3 : รณรงค์และดำเนินโครงการให้ทุกภาคส่วนประหยัดและลดการใช้พลังงาน 60.0%

อันดับที่ 4 : เจรจานำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย 55.2%

4. ภาครัฐควรดำเนินการเพื่อป้องกันปัญหาวิกฤตพลังงานในระยะยาวอย่างไร

อันดับที่ 1 : ส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจและภาคประชาชน 76.4%

อันดับที่ 2 : สนับสนุนการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน 73.9%

อันดับที่ 3 : ทบทวนโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย 61.8%

อันดับที่ 4 : ผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภาคขนส่งเต็มรูปแบบ 58.8%

5. ภาคอุตสาหกรรมควรมีการปรับตัวรับมือกับราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างไร

อันดับที่ 1 : การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้ภายในโรงงาน 69.7%

อันดับที่ 2 : ปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน 67.9%

อันดับที่ 3 : นำระบบการบริหารจัดการพลังงาน (EMS) มาใช้และปรับแผนการผลิต/โลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนพลังงาน 60.0%

อันดับที่ 4 : ส่งเสริมการใช้การขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) เช่น ระบบราง, เรือ และทางรถ 50.9%

6. คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกช่วงครึ่งปีหลังของปี 65

อันดับที่ 1 : 120-140 ดอลลาร์ต่อบาเรล 44.3%

อันดับที่ 2 : 100-120 ดอลลาร์ต่อบาเรล 33.3%

อันดับที่ 3 : มากกว่า 140 ดอลลาร์ต่อบาเรล 18.8%

อันดับที่ 4 : ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาเรล 3.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ