นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นของเศรษฐกิจไทย ในปลายไตรมาส 3/65 เนื่องจากรัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศ นับตั้งแต่ ก.ค. 65 ซึ่งจะทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา ช่วยสร้างรายได้ให้กับภาคท่องเที่ยว และภาคบริการที่เกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง โดยคาดว่าทั้งปีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 6-8 ล้านคน ประกอบกับสถานการณ์เงินบาทที่อ่อนค่าในช่วง 36 บาท/ดอลลาร์ จะส่งผลดีต่อมูลค่าการส่งออกของไทยให้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าทั้งปีการส่งออกจะขยายตัวได้ 5-7%
"ตั้งแต่กลางปี จะเริ่มมีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศ ทั้งภาคการค้า และภาคบริการ ตลอดจนธุรกิจกลางคืนที่กลับมาเปิดบริการ ซึ่งน่าจะทำรายได้ถึง 5 หมื่นล้านบาท/เดือน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นในปลายไตรมาส 3 เป็นต้นไป" นายธนวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทจะยังอ่อนค่าอยู่ในระดับ 36.00 - 36.50 บาท/ดอลลาร์ ต่อเนื่องในช่วง 1-3 เดือนนี้ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก 1.ดอลลาร์สหรัฐยังมีทิศทางแข็งค่า เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น คริปโทเคอร์เรนซี่ ทองคำ น้ำมัน และหันไปถือครองเงินดอลลาร์แทน และ 2. การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี จะทำให้มีเงินไหลเข้าสหรัฐมากขึ้นเพื่อหวังอัตราผลตอบแทนที่สูง ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และทำให้เงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่องอยู่ในระดับนี้ไป 1-3 เดือน จากนั้นจะค่อยปรับแข็งค่ามาอยู่ที่ 35.00 - 36.00 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงสิ้นปี เนื่องจากการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในประเทศ
โดยนายธนวรรธน์ เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้ง 3 ครั้ง ในการประชุมที่เหลือ 3 ครั้งของปีนี้ คือ ส.ค., ก.ย และ พ.ย. 65 ซึ่งจะทำให้ ณ สิ้นปี อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะมีโอกาสแตะที่ระดับ 1.25% ต่อปี จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.50% ต่อปี
พร้อมกันนี้ ยังคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยจะขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในไตรมาส 3/65 เฉลี่ยที่ 7.6% เนื่องจากราคาน้ำมันและราคาพลังงานยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ราคาสินค้าต่างๆ ทยอยปรับขึ้นราคาจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น แต่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 3/65 จะไม่สูงเกิน 8.5% และจะเริ่มผ่อนคลายลงในช่วงไตรมาส 4/65 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 5.5 - 6.5% ตามทิศทางการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยในประเทศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะมีส่วนช่วงดึงเงินเฟ้อลงมาได้ โดยคาดว่าทั้งปีเงินเฟ้อจะเฉลี่ยอยู่ที่ 6.2% ขณะที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวในระดับ 3.1%