ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.16 กลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า หลังมีแรงขายดอลล์-เงินไหลเข้าตลาดหุ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 7, 2022 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.16 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.25 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.05 - 36.36 บาท/ดอลลาร์

โดยช่วงเช้าเงินบาทอ่อนค่า และเมื่ออ่อนค่าไปแตะที่ระดับ 36.36 บาท/ดอลลาร์ ก็เริ่มมีแรงขายสกุลเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ บาทกลับมาแข็งค่า ประกอบกับคาดว่าวันนี้ต่างชาติเข้าซื้อสุทธิหุ้นด้วย

"วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวค่อนข้างกว้างกว่า 30 สตางค์ โดยระดับที่ 36.36 บาท/ดอลลาร์ ยังเป็นระดับที่อ่อนค่าในรอบ 6 ปีครึ่งอยู่ ด้านสกุลเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม ค่อนข้างไร้ทิศทาง" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 36.05 - 36.25 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัย ที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 136.05 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 135.63 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0206 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0182 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,562.37 จุด เพิ่มขึ้น 20.58 จุด (+1.33%) มูลค่าการซื้อขาย 65,953 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,955.82 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพรุ่งนี้ จะมีวาระเพื่อพิจารณาที่สำคัญ ได้แก่ เตรียมเสนอขอลดจำนวนวันในกระบวนการ
รักษาเป็น 5+5 วัน และขยายเวลาประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนมิ.ย.65 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 41.6 จากเดือนพ.ค.65 อยู่ที่ระดับ 40.2 โดยดัชนีปรับ
ตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่ม.ค. 65 ปัจจัยบวกที่หนุนดัชนีปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ศบค.ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ, การฉีด
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของทั้งโลกเพิ่มขึ้นเป็นรูปธรรม, กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และปรับเพิ่ม GDP ปี 65 เป็น 3.3% จากเดิม
3.2%, การส่งออกในพ.ค. โต 10.47% และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น
  • ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC-CI) ประจำเดือนมิ.ย. 65ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจและหอการ
ค้าทั่วประเทศ อยู่ที่ระดับ 36.3 เพิ่มขึ้นจากระดับ 35.2 ในเดือนพ.ค. 65 โดยดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่ลดลงต่อเนื่อง
มาตั้งแต่เดือนม.ค.65 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภาคธุรกิจเริ่มมองเห็นทิศทางในด้านบวกมากขึ้น จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งการ
ผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางของนักท่องเที่ยว
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกร่างหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบ
ธุรกิจและทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) อนุญาตให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง
ค่อยเป็นค่อยไป และให้ความสำคัญต่อการมีธรรมาภิบาลที่ดี ทั้งนี้ ธปท. จะเปิดรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากสาธารณชนต่อร่างหลัก
เกณฑ์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2565
  • สื่อหลายสำนักรายงานว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมในวันนี้ (7
ก.ค.) หลังสมาชิกรัฐบาลกว่า 50 คนพร้อมใจกันลาออกจากตำแหน่งเพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
  • ธนาคารกลางศรีลังกา (CBSL) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในวันนี้ (7 ก.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้น
เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และควบคุมการคาดการณ์เงินเฟ้อด้วย
  • องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า ประชาชนหลายสิบล้านได้กลายเป็นคนยากจน เนื่อง
จากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นมูลค่า 16.20 ล้านล้านเยน (1.19 แสนล้านดอลลาร์) ใน
เดือนมิ.ย. ทำสถิติสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวพุ่งขึ้นสูงกว่า
เพดานที่กำหนดไว้ ตามมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่ BOJ ดำเนินการมาโดยตลอด
  • เซี่ยงไฮ้รายงานการพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
และได้ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า ศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ อาจต้องกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งตามนโยบายโควิด
เป็นศูนย์ (Zero-Covid)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ