นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายวิจัย บล.ภัทร(PHATRA) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ยังไม่น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐในขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ โดยมองว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 1.5%
แต่มองว่าในการประชุมกนง.นัดถัดไปมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพราะเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะมีการลดดอกเบี้ยลงอีกรอบ ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยกว้างขึ้นอีก
นายศุภวุฒิ กล่าวในการสัมมนา"โรดแมพฟื้นเศรษฐกิจชาติ"ว่า ไทยควรปล่อยให้เงินบาทเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาดแม้จะแข็งค่าขึ้น ไม่ควรเอาเศรษฐกิจไทยไปขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ เพราะเศรษฐกิจไทยไม่มีปัญหาเหมือนกับสหรัฐ ค่าเงินบาทก็ไม่ควรผูกติดกับดอลลาร์ และในอนาคตหากอัตราเงินเฟ้อในประเทศลดลงก็จะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงได้เอง
ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐไม่ได้ส่งผลกระทบทางตรงต่อเศรษฐกิจไทย แต่ทางอ้อม ถือว่าปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐสร้างปัญหาเงินเฟ้อไปทั่วโลก แต่ปัจจัยส่วนนี้ยังมีผลต่อไทยค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับปัญหาการเมืองในประเทศจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น รวมถึงหากมีการยุบพรรคการเมือง 3 พรรค ก็ทำให้มองไม่ออกว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศต่อไปอย่างไร
แต่อย่างไรก็ตาม มองว่านักลงทุนในประเทศยังไม่ได้รับข่าวความไม่แน่นอนทางการเมืองเต็มที่นัก และยังคาดหวังในเชิงบวกโดยไม่เชื่อว่าจะมีการยุบพรรคเกิดขึ้นจริง ในส่วนของตลท.มองว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนมุมมอง โดยหากตลาดมีความเชื่อมั่นว่าการเมืองมีเสถียรภาพก็จะทำให้หุ้นขึ้นต่อไปได้
สำหรับมองมุมมองต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า นายศุภวุฒิ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวคงสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น แต่หากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวก็ควรจะเน้นที่การลงทุนเป็นหลัก รวมทั้งการขยายตลาดในประเทศ เนื่องจากการส่งออกจะไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีเท่าเดิมแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--