(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.58 อ่อนค่าต่อเนื่องจากกังวลเฟดเร่งขึ้นดบ.แรง กรอบวันนี้ 36.50-36.70

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 15, 2022 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.58 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.51 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้อ่อนค่าต่อเนื่องจากเย็นวาน โดยยังเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 7 ปี และอ่อนค่าตามทิศทางของสกุลเงิน อื่นในภูมิภาคเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อคืนราคาทองคำร่วงลงค่อนข้างมาก ซึ่งอาจทำให้มี flow ซื้อดอลลาร์มากขึ้น จึงส่ง ผลให้เงินบาทอ่อนค่าต่อ ประกอบกับตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รอบนี้จะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1% หลังจากเงินเฟ้อ เดือนมิ.ย.ของสหรัฐ พุ่งไปถึง 9.1% จึงทำให้ดอลลาร์มีทิศทางที่ยังแข็งค่า

"ดูแนวโน้มแล้วเงินบาทยังอ่อนค่าได้ต่อ เพราะตลาดมองว่ารอบนี้เฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1% ส่วนเมื่อคืนราคา ทองก็ลงไปมาก อาจจะมี flow เข้าซื้อดอลลาร์ แล้วขายบาท ทำให้บาทช่วงนี้คงอ่อนค่าได้ต่อ" นักบริหารเงิน ระบุ

โดยวันนี้ต้องติดตามการรายงาน GDP ไตรมาส 2/65 ของจีน ส่วนคืนนี้ตลาดรอดูยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50 - 36.70 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (14 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.76426% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.91733%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 36.70500 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 138.84 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 138.77 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0032 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0039 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.636 บาท/
ดอลลาร์
  • "นักเศรษฐศาสตร์" ชี้เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งนิวไฮรอบ 40 ปี กดดันดำเนินนโยบายการเงินของไทย "เคเคพี-ซีไอเอ็ม
บี" ประเมินหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย 1% กดดัน กนง.ขยับเพิ่ม 0.50% "ทีทีบี" คาดเงินบาทอ่อนค่า 38-39 บาทต่อดอลลาร์ แต่ไม่น่า
กังวล เชื่อ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป "บล.ทิสโก้" คาดแบงก์ชาติจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง แต่จะเร็วหรือช้าอยู่ที่ตัวเลข
เงินเฟ้อ
  • "ธุรกิจประกันชีวิต" เตรียมพร้อมรับมือ "ดอกเบี้ย" ผันผวน ยันฐานะการเงิน แข็งแกร่ง ปรับกลยุทธ์หัน
ขาย "ประกันสุขภาพ-โรคร้ายแรง-ยูนิตลิงค์" เหตุไม่อ่อนไหวตามทิศทาง ดอกเบี้ยขึ้น-ลง
  • ประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐจะส่งหนังสือถึง
กระทรวงการคลัง เพื่อขอขยายเวลาลดเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย
ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิส
ลามแห่งประเทศไทย จาก 0.25% ของเงินฝากที่ได้รับจากประชาชนเหลือ 0.125% ต่อไปอีก 1 ปี หรือสิ้นสุดปี 66 จากเดิมสิ้นสุด
ปี 65 เพื่อลดต้นทุนการเงินให้สามารถเข้าไปดูแลลูกค้าเงินกู้ โดยเฉพาะรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย ไม่เช่นนั้นอาจมีผลกระทบต่อ
ลูกค้า โดยเฉพาะอัตราการผ่อนชำระของลูกค้าที่อาจสูงขึ้น
  • "นายกฯ" ขออย่าประมาทสายพันธุ์ "BA.4 BA.5" แม้อาการไม่รุนแรง มั่นใจ สธ.พร้อมรับมือ "หมอนิธิพัฒน์"
โพสต์เตือนติดเชื้อโควิด อาจแตะ 5 หมื่นรายต่อวัน "หมอยง" ระบุโควิดระลอกที่ 6 ยังไม่ถึงจุดสูงสุด เตือนกลุ่มเสี่ยงสูงควรรับ
วัคซีนให้เต็มที่เพื่อลดอาการ
  • ซีอีโอของเจพีมอร์แกน เชสได้กล่าวโจมตีกฎระเบียบของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ผล
ประกอบการของเจพีมอร์แกนอ่อนแอลง และยังทำให้ธนาคารต้องระงับการซื้อหุ้นคืน
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 244,000
รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 234,000 ราย
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี
(14 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1% ในเดือนนี้ หลัง
ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 15 เดือนในวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) เนื่องจาก
การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวเตือนว่าเงินเฟ้อในสหรัฐกำลังพุ่งสูงจนยอมรับไม่ได้ และการสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงถือ
เป็นภารกิจที่มีความสำคัญที่สุดของรัฐบาลสหรัฐ
  • หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า พร้อมที่จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประ
ชุมเดือนก.ค. หากข้อมูลเศรษฐกิจสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐวันนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State
Manufacturing Index) เดือนก.ค.จากเฟดนิวยอร์ก และราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนมิ.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรม
เดือนมิ.ย. เวลา 20.15 น. และปิดท้ายด้วยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.
ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2565 ของจีน ขณะที่คาดว่า
เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างหนัก โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งได้ฉุดการผลิตและการบริโภคในประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ