นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า นับถึงสิ้นไตร มาส 3 ปี งบประมาณ 2565 (1 ต.ค.64-30 มิ.ย.65) สคร.จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจ และกิจการที่ กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า 50% (กิจการฯ) รวมทั้งสิ้นจำนวน 116,130 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการสะสมจำนวน 14,643 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81% ของเป้าหมายการจัดเก็บในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 142,800 ล้านบาท
โดยเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน ส่วนใหญ่มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, บมจ.ปตท.(PTT) , ธนาคารออมสิน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2565 มีดังนี้
1.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 38,997 ล้านบาท 2.บมจ.ปตท.(PTT) 29,198 ล้านบาท 3.ธนาคารออมสิน 14,607 ล้านบาท
4.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 9,919 ล้านบาท
5.การไฟฟ้านครหลวง 3,325 ล้านบาท 6.การยาสูบแห่งประเทศไทย 2,619 ล้านบาท 7.การท่าเรือแห่งประเทศไทย 2,610 ล้านบาท 8.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 2,600 ล้านบาท 9.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2,374 ล้านบาท 10.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,345 ล้านบาท 11.อื่นๆ และกิจการฯ 8,536 ล้านบาท รวม 116,130 ล้านบาท สำหรับในปีงบประมาณ 2565 เป็นการจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากผลประกอบการในปี 2564 ของรัฐวิสาหกิจ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2565 มีการนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงกว่าประมาณการสะสม เนื่องจากรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ บางแห่งสามารถนำส่งรายได้แผ่นดินสูงกว่าที่ประมาณการไว้
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ของรัฐวิสาหกิจบางแห่งอาจยังคงได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ผ่านมา ซึ่ง สคร.จะได้มีการติดตามผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ ชิด โดยจะพิจารณาประกอบกับมาตรการของภาครัฐที่รัฐวิสาหกิจจะต้องเข้าไปดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนและการลงทุนของ รัฐวิสาหกิจ เพื่อให้การกำกับติดตามการนำส่งเงินรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้าง เสถียรภาพทางการคลังได้อย่างยั่งยืน