ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.63 แกว่งไร้ทิศทางหลังขาดปัจจัยหนุน จับตาผลประชุม ECB-BOJ สัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 18, 2022 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.63 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.58 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.52 - 36.64 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทยังแกว่งแบบไร้ทิศทาง เนื่องจากยังไม่มี ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินเท่าใดนัก เป็นเพียงแรงซื้อ-ขายทั่วไป เช่นเดียวกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค

อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ นักลงทุนให้ความสนใจไปที่การประชุมของ 2 ธนาคารกลางสำคัญ คือ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่ง คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่คาดว่ารอบนี้ยังคงดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50 - 36.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 138.26 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 138.28 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0150 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0086 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,544.81 จุด เพิ่มขึ้น 11.44 จุด (+0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 49,093 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,267.34 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมครม. เห็นชอบโครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโควิด-19 กรอบวงเงินเกือบ 4 พันล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ
3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.65) เพื่อจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น ยาฟาวิพิราเวียร์, ยาโมนูลพิราเวียร์ และยาเรมเดซิเวียร์
รวมถึงชุดตรวจ ATK
  • รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้ารัฐ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปีงบ 2565 รวมทั้งสิ้น 1.16 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ
14,643 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81% ของเป้าหมายการจัดเก็บในปีงบประมาณ 2565 ที่จำนวน 1.42 แสนล้านบาท
  • อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ในกทม. และปริมณฑล พบ
อัตราครองเตียงระดับ 2-3 สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น และเริ่มพบสัญญาณจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัดท่องเที่ยว จึงต้องเน้น
เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์การระบาดของโรค ช่วงหลังวันหยุดยาว โดยเฉพาะจุดเสี่ยงสำคัญต่อการระบาดเป็นกลุ่มก้อน เช่น
โรงเรียน วัด ศาสนสถาน แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งโรงพยาบาล และสถานประกอบการ
  • นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ขอให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์โควิด-19 และเตรียมความ
พร้อมรับมือต่อสถานการณ์หลังวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วันที่ผ่านมา พร้อมกับเน้นย้ำมาตรการป้องกันตนเอง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยและ
การฉีดวัคซีน พร้อมทั้งกำชับการจัดงานและกิจกรรมในทุกพื้นที่ ต้องดูแลและกวดขันมาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไม่
สามารถย้อนกลับไปที่เก่าได้
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า PBOC จะยกระดับการใช้นโยบายทางการเงินที่รอบคอบ เพื่อสนับสนุน
เศรษฐกิจให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
  • พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของกัมพูชา มีมติสนับสนุนสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายก
รัฐมนตรีกัมพูชา ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยต่อไป หากพรรคฯ ชนะการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 23 ก.ค. 2566
  • ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 21,000 ดอลลาร์ช่วงเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1% ในการประชุมเดือนนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 30% ที่เฟดจะปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. และให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
  • สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 7.3% ในไตรมาส 2/2565 เมื่อ
เทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาต้นทุนการก่อสร้าง และค่าเช่าบ้านที่ปรับตัวสูงขึ้น
  • รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียระบุว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนั้นจะทำให้ออสเตรเลียต้องจ่ายหนี้สินเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้คาดว่า
รัฐบาลต้องจ่ายดอกเบี้ย 9.91 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6.74 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับหนี้สินก้อนใหญ่เป็นประวัติการณ์ตลอด
ช่วง 4 ปีข้างหน้า
  • มอร์แกน สแตนลีย์ ลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ปีนี้ของอินเดียสู่ 7.2% จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 7.6% เนื่อง

จากสถานะทางการเงินตึงตัวขึ้น และภาวะชะลอตัวของการค้าทั่วโลกได้กดดันประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ทั่วโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ