คณะกรรมการด้านไข้หวัดนกของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียมียอดความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไข้หวัดนกเป็นมูลค่าประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่มีการพบสัตว์ปีกติดเชื้อไข้หวัดนกครั้งแรกในประเทศเมื่อปี 2547 จนถึงปลายปี 2550
"หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไก่ล้มตายหรือถูกฺฆ่าตายไปเป็นจำนวนมากตั้งแต่ปี 2547 ความต้องการไก่และไข่ก็ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลและเกษตรกรมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น" บายู คริสนามูร์ตี ผู้อำนวยการบริหารของคณะกรรมการควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดแห่งชาติกล่าว
"นับเป็นเวลา 4 ปีตั้งแต่ช่วงปี 2547-2550 ที่อินโดนีเซียต้องเผชิญกับความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นเงินถึง 4.1 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งไม่นับรวมถึงการสูญเสียตำแหน่งงานและการที่ประชาชนบริโภคโปรตีนในปริมาณที่ลดลง"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในบรรดา 33 จังหวัดของอินโดนีเซียนั้น จาการ์ต้าเป็นจังหวัดที่มีเหยื่อไข้หวัดนกสูงสุดถึง 32 ราย ตามมาด้วยชวาตะวันตกจำนวน 31 รายและบันเทนอีก 25 ราย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุตัวเลขล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่เชื้อไวรัสไข้หวัดนกได้กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งเมื่อเดือนธันวาคมปี 2546 ทำให้ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกอย่างน้อยอยู่ที่ 373 รายใน 14 ประเทศ โดย 236 รายในจำนวนนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--