นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การจัดทำมาตรการคนละครึ่ง เฟส 5 นั้น เนื่องจากมองเห็นว่าการบริโภคภายในประเทศเริ่มแผ่วลง จากราคาสินค้าและราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีอยู่ประปราย ขณะเดียวกันยังมาจากคาดการณ์ว่าระยะต่อไปธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของประชาชนด้วย ดังนั้นจึงเชื่อว่ามาตรการคนละครึ่ง เฟส 5 จะช่วยทำให้การบริโภคภายในประเทศมีความคึกคักมากขึ้น
"วงเงินที่ลดลงเหลือ 800 บาทต่อคนนั้น เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันฟื้นตัวดีขึ้นกว่าช่วงก่อน ดังนั้นการช่วยเหลือต่าง ๆ จากภาครัฐก็ควรลดลงเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม" รมว.คลัง กล่าว
พร้อมระบุว่า ทั้ง 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศที่ ครม. อนุมัติในวันนี้จะเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวม 48,628 ล้านบาท โดยคาดว่าจะช่วยทำให้ GDP ปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.13% แต่คงไม่ได้ทำให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.5% ที่กระทรวงการคลังได้คาดการณ์มากนัก
รมว.คลัง กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 66 ว่า หากเศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้เกิน 4-4.2% ได้ ก็ถือเป็นระดับที่ดี ที่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีนี้ ซึ่งหลัก ๆ มาจากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า