ดอลล์อ่อนค่าต่อเนื่องที่ตลาดฮ่องกงบ่ายนี้ จากกระแสคาดเฟดลดดบ.อีกระลอก

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยนที่ตลาดปริวรรตเงินตราฮ่องกงบ่ายวันนี้ (25 มี.ค.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.5550 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งแข็งค่าขึ้นจาก 1.5436 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าแตะ 100.36 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 100.72 เยนต่อดอลลาร์
          โทโมโกะ ฟูจิ นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า "มีหลายปัจจัยที่กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และปัจจัยสำคัญอยู่ที่แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐที่ซบเซาและกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก  โดยเฟดอาจลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนหน้าและปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนมิ.ย.
          ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมา เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงไปแล้ว 3.00% เพื่อบรรเทาผลกระทบในตลาดสินเชื่อและเพิ่มวงเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มมากขึ้นเพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงได้กดดันค่าเงินดอลลาร์จนทำให้นักลงทุนไม่ต้องการเข้าซื้อสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำ
          "ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่ารายงานยอดขายบ้านจะออกมาในเชิงบวก รวมถึงการที่เฟดปรับลดดอกเบี้ยลง และการที่เจพีมอร์แกนได้ซื้อกิจการของแบร์ สเติร์นส์" มาร์ก วาน หัวหน้านักวิเคราะหจากฮั่งเส็ง อินเวสเม้นท์ เซอร์วิส จำกัดกล่าว
          ทั้งนี้ สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี ซึ่งข้อมูลในเชิงบวกได้กระตุ้นค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญเมื่อคืนนี้
          ด้านเดวิด เดอ การี นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า "ดูเหมือนว่าการที่ราคาบ้านปรับตัวลดลงประกอบกับความเคลื่อนไหวจากเฟดที่ปรับลดดอกเบี้ย ได้ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อความต้องการที่อยู่อาศัย"
          อย่างไรก็ตาม เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดปี 2551 เมื่อเดือนก.พ. ลงมาอยู่ที่ 1.3% จากระดับคาดการณ์สูงสุดที่ 2.5% ในเดือนต.ค.