นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างปี 2563-2564 ธุรกิจประเภทต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะธุรกิจภาคการท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ ขณะที่การเดินทางภายในประเทศถูกจำกัดด้วยมาตรการทางสาธารณสุข ทำให้การดำเนินธุรกิจเกิดภาวะหยุดชะงัก ผ่านพ้นถึงปี 2565 โรคโควิด-19 กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ ลง ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจทุกภาคส่วนส่งสัญญาณการฟื้นตัวและกลับมาคึกคักอีกครั้ง
หนึ่งในธุรกิจที่ฟื้นตัวจากพิษโควิด-19 อย่างชัดเจน คือ ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ย.65) มีจำนวนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ 76 ราย ทุนจดทะเบียน 132.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ราย หรือ 40.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่จัดตั้งใหม่ 54 ราย ทุนจดทะเบียน 129.50 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีต่อธุรกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ปัจจุบัน ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 มีธุรกิจให้เช่ายานยนต์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวนทั้งสิ้น 2,045 ราย คิดเป็น 0.24% ของธุรกิจทั้งหมด มูลค่าทุน 23,239.85 ล้านบาท คิดเป็น 0.11% ของธุรกิจทั้งหมด ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (609 ราย) ชลบุรี (166 ราย) ภูเก็ต (166 ราย) เชียงใหม่ (164 ราย) สุราษฎร์ธานี (98 ราย) สมุทรปราการ (82 ราย) ฯลฯ
ภาพรวมของการลงทุนในธุรกิจฯ นักลงทุนชาวไทยครองแชมป์อันดับ 1 มูลค่าทุน 18,878.20 ล้านบาท คิดเป็น 81.23% รองลงมา คือ ญี่ปุ่น ทุน 3,963.18 ล้านบาท 17.05% รัสเซีย ทุน 69.55 ล้านบาท 0.30% ฝรั่งเศส ทุน 56.14 ล้านบาท 0.24% และสัญชาติอื่นๆ ทุน 272.78 ล้านบาท 1.17%
ธุรกิจฯ มีรายได้โดยเฉลี่ยประมาณ 46,500 ล้านบาทต่อปี (รายได้รวมปี 2562 จำนวน 55,398.50 ล้านบาท ปี 2563 จำนวน 44,101.63 ล้านบาท ลดลง 20% และ ปี 2564 จำนวน 39,991.03 ล้านบาท ลดลง 9%) ขณะที่ผลประกอบการมีกำไรโดยเฉลี่ยประมาณ 3,230 ล้านบาทต่อปี (กำไรรวม ปี 2562 จำนวน 5,534.46 ล้านบาท ปี 2563 จำนวน 2,507.14 ล้านบาท ลดลง 55% และ ปี 2564 จำนวน 1,651.57 ล้านบาท ลดลง 34%)
ทั้งนี้ ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มีรูปแบบการให้เช่าเพื่อดำเนินงาน (Operating Lease) แบ่งเป็น การเช่าระยะยาวรายปี และการเช่าระยะสั้นชั่วคราว (Rental) (เช่ารายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน) โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมีปัจจัยมาจากบริษัทเอกชน หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการครอบครองรถยนต์ จากการซื้อเป็นการเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในสำนักงาน เป็นการลดภาระทางการเงินในการซื้อรถยนต์ รวมทั้งมีบริการซ่อมบำรุงและตรวจสภาพรถ
ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันและค่านิยมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมส่งผลต่อพฤติกรรมผู้ใช้งานรถยนต์ที่มีการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแทนรถยนต์พลังงานสันดาป ส่งผลให้ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ฯ ปรับเปลี่ยนรถที่ให้เช่าเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งนอกจากการเช่ารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในหน่วยงานแล้ว ผู้ประกอบอาชีพอิสระก็ได้เปลี่ยนมาเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในงานรับส่งพัสดุ สิ่งของ หรือผู้โดยสาร เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง และไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษารถไฟฟ้า ซึ่งสอดรับกับจำนวนสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าที่ระยะเวลา 6 เดือน (ก.ย.-มี.ค.65) เพิ่มขึ้นถึง 14% ส่งผลให้เดือน มี.ค.65 มีจำนวนกว่า 944 สถานี กระจายอยู่เมืองใหญ่ทั่วประเทศ รองรับรถพลังงานไฟฟ้า เป็นการชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวและปรับเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
นอกจากจะมีการเปลี่ยนประเภทรถให้เช่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคแล้ว ธุรกิจยังมีการปรับรูปแบบการดำเนินงาน โดยเพิ่มจุดรับรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการเช่ารถมากยิ่งขึ้น และเนื่องจากรายได้ของธุรกิจให้เช่ายานยนต์ฯ ส่วนหนึ่งมาจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการเช่ารถระหว่างการท่องเที่ยว
"เนื่องจากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ดังนั้นธุรกิจให้เช่ายานยนต์ฯ จึงปรับตัวด้านการจัดการต้นทุนในส่วนของการลงทุนซื้อรถยนต์ด้วยการให้ประชาชนทั่วไปเป็นหุ้นส่วนนำรถยนต์ส่วนตัวมาให้เช่าเป็นรายวัน ซึ่งบริษัทจะเก็บค่าคอมมิชชั่นจำนวนหนึ่ง และอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของรถยนต์ให้สามารถเลือกวันที่เจ้าของรถยนต์ต้องการจะให้เช่า และเจ้าของสามารถติดตามรถยนต์ของตนเองบนแอปพลิเคชั่นที่จัดทำขึ้น รวมถึงมีประกันภัยรถยนต์ เพื่อสร้างความสบายใจให้กับเจ้าของรถยนต์ที่มาร่วมเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการประกอบธุรกิจ เป็นการหารายได้พิเศษ และใช้ประโยชน์จากรถยนต์อย่างคุ้มค่า" นายสินิตย์ กล่าว