นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.13 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า เปิดตลาดที่ระดับ 36.11 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทค่อนข้างผันผวน เคลื่อนไหวในกรอบ 36.03-36.16 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงเช้าเงินบาทยังแข็งค่า และ เริ่มมีแรงซื้อดอลลาร์กลับมา จึงทำให้บาทกลับมาอ่อนค่าในระหว่างวัน นอกจากนี้ ยังเป็นควันหลงจากผลการตีความของตลาดว่าธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยแรง อาจจะน้อยกว่าครั้งละ 0.75% กลับมาเป็นแรงกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐ
"วันนี้บาทค่อนข้างผันผวน เป็นควันหลงจากตลาดตีความว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรง รวมทั้งกรณีที่ประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐ ไปเยือนไต้หวัน ส่งผลให้เงินหยวนอ่อนค่าแรง ทำให้เงินบาทโดนเทขายในช่วงกลางวัน" นักบริหารเงิน ระบุ ตลาดรอดูสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีรายงานว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมเดินทางไป เยือนไต้หวัน อย่างไรก็ดี คืนนี้ สหรัฐฯ ยังไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีผลต่อค่าเงิน
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.00 - 36.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 130.86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 130.67 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0233 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0270 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,589.16 จุด ลดลง 4.08 จุด (-0.26) มูลค่าการซื้อขาย 59,464 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,628.27 ลบ.(SET+MAI)
- กระทรวงการคลัง รายงานครม. คาดปี 66 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 4.2% หลังการบริโภคภาคเอกชน และ
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก มองว่าการส่งออกไทยมีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงครึ่ง
- ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินว่า ในปี 65-66 ทิศทางการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังขยายตัวได้
- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.50% สู่ระดับ 1.85% ในการประชุม
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ให้คำมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพการขยายตัวของการปล่อยเงินกู้โดยรวม และสนับสนุนการ
- สำนักงานสถิติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 6.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน
หน้า หลังปรับขึ้น 6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2541 โดยได้รับผล
กระทบจากราคาพลังงานและอาหารที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) จะเดินหน้า
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ