พาณิชย์เช็คสต็อกข้าวล่าสุดหายจากบัญชีกว่า 2 แสนตันคาดลักลอบนำออกขาย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 25, 2008 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบปริมาณข้าวในสต๊อกรัฐบาลตามนโยบายนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ พบว่าจำนวนข้าวทั้งหมดไม่ตรงตามบัญชี 2.1 ล้านตัน และหายไป 10-15% หรือกว่า 200,000 ตัน 
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการทุจริต หรือตัวเลขตามบัญชีมีความคาดเคลื่อน ในเบื้องต้นพบว่าปริมาณข้าวที่ไม่ตรงตามบัญชี ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เดิม ๆ เช่น จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ จ.เชียงราย เป็นต้น
ทั้งนี้ ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ นายมิ่งขวัญจะประชุมปลัดกระทวงพาณิชย์ ผู้ตรวจกระทรวงพาณิชย์ และทีมงานตรวจสอบปริมาณข้าว ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 11- 17 มี.ค.51 เพื่อให้รายงานตัวเลขข้าวในสต๊อกหลังการตรวจสอบ รวมถึงปัญหาการขโมยข้าว สถานการณ์ค้าข้าว จากนั้นจะนำข้อสรุปที่ได้ไปชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นจากสมาคมชาวนาไทย และสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ ในปลายสัปดาห์นี้ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบ
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของจำนวนข้าวที่หายไปเกือบ 200,000 ตันนั้นน่าจะเป็นการทุจริตจากเจ้าของโกดังที่รัฐฝากเก็บข้าว และผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวรัฐแต่ยังไม่ได้ชำระเงินค่าซื้อข้าว ได้นำข้าวส่วนหนึ่งออกไปขายก่อนเพื่อหวังกำไรส่วนต่าง เพราะขณะนี้ราคาข้าวสูงขึ้นมาก อีกทั้งยังพบการปลอมปนข้าวในหลายพื้นที่อีกด้วย
ส่วนปริมาณสต๊อกข้าวในบัญชีก็ยังไม่ชัดเจนว่ามีทั้งสิ้น 2.1 ล้านตัน หรือ 1.98 ล้านตัน ซึ่งตัวเลขที่แตกต่างกันนี้ กระทรวงพาณิชย์กำลังหาสาเหตุอยู่ว่าเป็นเพราะอะไรแน่
นอกจากนั้น ยังพบว่าเจ้าของโรงสีส่วนใหญ่โดยเฉพาะรายกลางและย่อย กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน และบางรายถูกธนาคารริบทรัพย์สินไปแล้ว เพราะปีที่ผ่านมามีชาวนานำข้าวมาเข้าโครงการรับจำนำน้อยมาก โรงสีจึงไม่มีรายได้จากการสีแปรสภาพข้าวของรัฐ หากรัฐเอาผิดกับเจ้าของโรงสีที่ผิดสัญญา หรือเจ้าของโรงสีที่มีพฤติกรรมทุจริต ก็จะทำให้โรงสีเหล่านั้นได้รับผลกระทบทันทีและอาจต้องปิดกิจการ ซึ่งมีจำนวนมากอาจถึง 1 ใน 3 ของจำนวนโรงสีทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายมิ่งขวัญ ได้สั่งการให้นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ศึกษาและปรับปรุงกฎหมาย และข้อสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชนให้เข้มงวดรัดกุมขึ้น เพราะพบว่าเมื่อเอกชนผิดสัญญากับรัฐ ก็ไม่อาจเอาผิดได้ หรือบางครั้งรัฐเรียกร้องค่าเสียจากเอกชนที่ทำผิดได้น้อยกว่าจำนวนความเสียหายที่เกิดขึ้นอีกทั้งยังมีโทษปรับ หรือจำคุกสำหรับผู้ทำความเสียหายให้รัฐน้อยมาก จึงทำให้เกิดการกระทำผิดที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ สมาคมจะเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลปัญหาราคาปุ๋ยเคมีที่ขณะนี้ราคาสูงขึ้นมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 บาท/ไร่ จากเดิมประมาณ 4,000 บาท/ไร่ นอกจากนี้ ยังจะขอความชัดเจนในเรื่องนโยบายข้าวของรัฐบาล เพราะเกรงว่า กระทรวงพาณิชย์จะควบคุมราคาข้าวเหมือนสินค้าอื่นๆ และจะกระทบต่อชาวนาได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ